เปิด 4 เหตุผล นายกฯเลือก 'อาคม เติมพิทยาไพสิฐ' นั่งเก้าอี้ 'รมว.คลัง' คนใหม่

เปิด 4 เหตุผล นายกฯเลือก 'อาคม เติมพิทยาไพสิฐ' นั่งเก้าอี้ 'รมว.คลัง' คนใหม่

เปิด 4 เหตุผล "ประยุทธ์" เลือก อาคม เติมพิทยาไพสิฐ นั่ง รมว.คลัง คนใหม่ ตอบโจทย์เศรษฐกิจระยะสั้น - กลาง ประสานงานสภาพัฒน์ ทำงานร่วมไพรินทร์ ดันแผนเศรษฐกิจระยะกลาง ได้รับการยอมรับในแวดวงข้าราชการ-ธุรกิจ พ่วงเหตุผล "ที่บ้าน" ไม่เป็นห่วงมากเกินไป

ครบ 1 เดือนพอดีที่ประเทศไทยไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหลังจากที่ “ปรีดี ดาวฉาย” ลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ด้วยปัญหาด้านสุขภาพ 

หลังจากที่เป็นที่จับตากันมานานและมีหลายชื่อที่ปรากฎในหน้าสื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมจะเลือกใครเป็น “ขุนคลัง” คนใหม่ ในรัฐบาลเพื่อให้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่ยากลำบากให้ผ่านพ้นห้วงเวลานี้ไปได้ 

ที่สุดแล้วนาทีนี้ชื่อของ “อาคม  เติมพิทยาไพสิฐ” มีความเป็นได้มากที่สุดโดยล่าสุดกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีได้นำชื่อรัฐมนตรีคลังคนใหม่ในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/3” ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว 

แม้ที่ผ่านมาจะมีหลายรายชื่อ หลายคนที่ได้รับการทาบทาม เหตุผลที่นายกรัฐมนตรีเลือก “อาคม” เป็นรมว.คลังคนใหม่มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง 4 ประการที่สำคัญดังต่อไปนี้  

1. ประสบการณ์การทำงานความรู้ และความสามารถของอาคม ถือว่าเหมาะสมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และแผนงานของรัฐบาลในเวลานี้ด้วยเขาเคยเป็นทั้งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และอดีตรมว.คมนาคม ซึ่งย่อมเป็นคนที่ “รู้งาน” แบบที่นายกฯต้องการ การได้อาคมเข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.คลัง ทำให้การทำงานประสานข้ามกันระหว่างหน่วยงานเศรษฐกิจคือกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ซึ่งมีภารกิจในการกลั่นกรองเงินกู้ฯ

นอกจากนั้นอาคมยังสามารถทำงานประสานกับไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม เพราะเคยทำงานร่วมกันแล้วสมัยเดียวกับที่นายอาคมเป็น รมว.คมนาคม ซึ่งขณะนี้นายกฯแต่งตั้งให้ไพรินทร์เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ ใน ศบศ.และอีกบทบาทคือการเป็นประธานขับเคลื่อนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่รัฐบาลตั้งความหวังให้เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยระยะปานกลางและระยะยาว 

การกลับมาทำงานร่วมกันระหว่างอาคมและไพรินทร์จึงส่งผลดีต่อการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

2. สายสัมพันธ์อันดีระหว่างอาคมกับนายกฯ อาคมไม่เพียงเป็นอดีตรมว.และ รมช.คมนาคมในสมัยรัฐบาล คสช.เท่านั้น แต่เมื่อพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วก็ยังช่วยเสนอแนะความคิดเห็นและให้ข้อมูลเรื่องโครงการคมนาคมสำคัญๆที่รัฐบาลต้องการจะขับเคลื่อน การทำงานของอาคมสไตล์คน “สภาพัฒน์” ที่มีความละเอียดในข้อมูล มีการนำเสนอโครงการต่างๆอย่างหนักแน่นเป็นเหตุเป็นผลเป็นสิ่งที่นายกฯประทับใจ และนายกฯมีความเชื่อมั่นในฝีมือการทำงานของอาคมเรียกว่ารู้มือและเชื่อมือกันเป็นอย่างดี 

“เป็นคนที่คุ้นเคยกันดี ทำงานร่วมกันได้แน่นอน” นี่คือคำที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้เกี่ยวกับรมว.คลังคนใหม่ซึ่งหมายถึงอาคมนั่นเอง 

3. อาคมเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากทั้งแวดวงราชการ และแวดวงธุรกิจ นอกจากความรู้ในทางเศรษฐกิจที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ยังเป็นที่ทราบกันดีว่าอาคมเป็นข้าราชการมือสะอาด มีความซื่ิอสัตย์สุจริตอย่างมาก สมัยที่เป็นเลขาสภาพัฒน์ การทำงานอย่างละเอียดของอาคมทำให้บางโครงการมีความล่าช้าไม่ทันใจฝ่ายการเมืองบ้างแต่เมื่อเรื่องไปถึงคนบนตึกไทยคู่ฟ้าการพูดคุยจบลงด้วยว่ายังไง “อาคมเป็นคนดี” ทำให้อยู่ในตำแหน่งได้และได้เป็นทั้ง รมว.และ รมช.คมนาคมต่อเนื่องมาอีกหลายปี

และ 4. เหตุผลส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่อง “ที่บ้าน” ซึ่งตอนหลังกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่นายกฯอธิบายกับสื่อว่ายังหา รมว.คลังไม่ได้ เพราะ “ที่บ้านเป็นห่วง” แต่สถานะของอาคมคือเป็นคนโสด จึงมีคุณสมบัติแบบที่บ้านไม่เป็นห่วง (มากเกินไปนัก) 

ทั้ง 4 ข้อนี้จึงเป็นเหตุผลที่่ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นคนที่นายกรัฐมนตรีเลือกให้เป็น รมว.คลังคนใหม่ เป็นขุนคลังที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงต้องการคนดี คนเก่ง รู้งาน และที่สำคัญใจถึง เข้ามาช่วยเหลือประเทศในเวลานี้