เก้าอี้รัฐมนตรีคลัง อย่าให้เกิดสุญญากาศ

เก้าอี้รัฐมนตรีคลัง อย่าให้เกิดสุญญากาศ

ระยะเวลา 1 เดือนเต็มที่ตำแหน่ง " รมว.คลัง" อยู่ในภาวะสุญญากาศท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ที่ผ่านมามีแต่ข่าวพูดถึงตัวเต็งหลายต่อหลายราย ล่าสุดนายกฯระบุว่าได้นำรายชื่อทูลเกล้าฯแล้ว ต่อจากนี้จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังและเรียกวิกฤติศรัทธากลับคืนมา

ครบ 1 เดือน ที่ประเทศไทยไม่มี “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ทั้งๆ ที่เป็นเก้าอี้สำคัญในการบริหารราชการแผ่นดินว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจการคลังและงบประมาณ ต้องยอมรับว่ารัฐบาลสมัยปัจจุบัน รมว.คลัง เป็นตำแหน่งที่ใหญ่ รองจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้ล่าสุดมีชื่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กับนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ ปตท. และประธานธนาคารกรุงไทย เป็นคู่ชิงแซงหน้าบรรดาตัวเต็งก่อนหน้า ทว่าเป็นเพียงการคาดเดาจากแหล่งข่าวในรัฐบาล

ความเคลื่อนไหววานนี้ (1 ต.ค.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าได้นำรายชื่อ รมว.คลัง คนใหม่ทูลเกล้าฯ แล้ว วันเดียวกันนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังมาประชุมนโยบายพร้อมเรียกข้อมูลไปจัดทำแผนดูแลเศรษฐกิจเร่งด่วนเพื่อเสนอ รมว.คลัง ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งปลัดใหม่ พร้อมทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะกลาง เน้นการดูแลธุรกิจรายกลุ่มที่เดือดร้อนจริง โดยไม่ลืมขยายผลชิมช้อปใช้ พุ่งเป้าให้คนรวยใช้จ่าย เป็นความคืบหน้าที่น่าพอใจในงานกระทรวงการคลัง

แต่ยังไม่เพียงพอที่จะดับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในภาวะสุญญากาศ รมว.คลัง ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ เพราะประเทศไทยวันนี้คนส่วนใหญ่เดือดร้อนเพราะเงินขาดมือ ธุรกิจขาดสภาพคล่อง ผลจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่อาศัยรายได้จากต่างประเทศทั้งภาคส่งออกและท่องเที่ยว จึงได้รับผลกระทบจากโควิดค่อนข้างหนัก คาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เศรษฐกิจปีนี้ติดลบ 7.8% ขณะที่รายงานธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยติดลบถึง 8.3% มากที่สุดในอาเซียน

เราเห็นว่า การมีขุนพลทางเศรษฐกิจครบ น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับคือสิ่งจำเป็น การที่ทีมเศรษฐกิจขาด รมว.คลัง ไม่เพียงทำให้โครงการขนาดใหญ่ โครงการสาธารณูปโภคต้องหยุดชะงัก หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ข้าราชการไม่สานต่อนโยบายรัฐบาล หรือเกียร์ว่างเท่านั้น ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม เกี่ยวกับเรื่องนี้ในความเห็นของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ระบุถึงขั้นว่าเป็นวิกฤติศรัทธา

ตำแหน่งขุนคลังคือความจำเป็นอย่างเร่งด่วน การไร้ผู้ทำหน้าที่ รมว.คลังจะผลต่อเศรษฐกิจของประเทศรุนแรงกว่าที่นายกรัฐมนตรีตอบคำถามสื่อมวลชนในเรื่องนี้ว่า ภายในเดือน ต.ค.หรือรออีกไม่นานก็จะมีเอง เราเห็นว่าการว่างเว้นตำแหน่งครบ 1 เดือนเต็ม คนส่วนใหญ่เชื่อไปแล้วว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากขั้นตอนการคัดสรรคนที่มีคุณภาพ แต่เป็นเพราะรัฐบาลถูกปฏิเสธจากบุคคลที่มีคุณภาพที่จะมาทำงานด้วย ดังนั้นหากปล่อยไว้เนิ่นนานความคาดหวังในตัว รมว.คลังคนใหม่จึงสูงขึ้นๆ สุ่มเสี่ยงต่อความไม่เชื่อมั่น นำไปสู่การชะลอหรือหยุดลงทุนทั้งจากนักธุรกิจชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติ ผู้นำประเทศจึงต้องรับมือจัดการกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง