รีบาวด์

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ รีบาวด์ แนวต้าน 1245 / 1250 จุด แนวรับ 1225 / 1220 จุด หุ้นเก็งกำไรวันนี้ แนะนำ TKN ICHI GLOBAL CKP ปัจจัยบวก คือ การคาดหวังเชิงบวกต่อรายงานภาคการผลิตเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ อียู ญี่ปุ่น ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยลบ คือ จีนเข้าสู่เทศกาลหยุดยาวช่วงวันที่ 1-8 ต.ค. ส่งผลลบระยะสั้นต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ ยังคงไม่สามารถสรุปได้วานนี้ สภาคองเกรสเสนอ USD1.5Trn Vs พรรคเดโมแครต USD2.2Trn (-ตลาดหุ้นโลก)

      2) ผลการโต้วาทีรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และไบเดน พบว่าไบเดนดูดีกว่าเล็กน้อย (-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ)

      3) จีนเริ่มเทศกาลหยุดยาวช่วงวันที่ 1-8 ต.ค. (-กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์)

      4) ตลาดหลักทรัพย์สิ้นสุดมาตรการผ่อนคลาย Short Sell / Ceiling-Floor (อาจมีแรง Short หุ้นพลังงานและสาธารณูปโภค ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ธนาคาร จากแนวโน้มกำไรแย่)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

รายงานภาคการผลิตเดือน ก.ย. ของญี่ปุ่น คาด 47.3 (Vs เดือน ส.ค. 47.2) อียู คาด 53.7 (Vs เดือน ส.ค. 51.7) UK คาด 54.3 (Vs เดือน ส.ค. 55.2) USA คาด 53.5 (Vs เดือน ส.ค. 53.1) / USA-ISM Mfg PMI เดือน ก.ย. คาด 56.3 (Vs เดือน ส.ค. 56), Weekly Initial Jobless Claims คาด 850k (Vs สัปดาห์ก่อน 870k) / จีน-ตลาดหุ้นปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1-8 ต.ค. / HK-ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดในวันที่ 1-2 ต.ค. เนื่องในเทศกาลหยุดยาวและวันชาติ

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดตลาดที่ใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 1237.04 จุด -20.30 จุด วอลุ่ม 4.9 หมื่นล้านบาท (Big Lot 5.22 พันล้านบาท) นำลงโดยกลุ่มการแพทย์ -2.44% พลังงานและสาธารณูปโภค -2.27% ขนส่งและโลจิสติกส์ -2.14% โดยหุ้นบวก >4% BEAUTY NOBLE HTC AS ETC RCL TPS APP KSL ส่วนหุ้นลบ >4% BH BCH TQM NER AWC JCK DOD GL TSR LPN SAT TRUBB

- ตลาดหุ้นโลกปิดผสมผสาน: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแข็งแกร่ง DJIA +1.20% S&P500 +0.83% Nasdaq +0.74% รับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่อง DAX -0.51% CAC40 -0.59% FTSE -0.53% เพราะวิตกต่อเศรษฐกิจชะลอตัว จากการระบาด รอบสองของ COVID-19 และความไม่แน่นอนของผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

- น้ำมันดิบปิดคละ แต่ทองปิดร่วง: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดคละ Brent +74 เซนต์ ปิดที่ USD42.30/บาร์เรล WTI +93 เซนต์ ปิดที่ USD40.22/บาร์เรล จากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยลดลง 2 ล้านบาร์เรล Vs คาดเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนทองคำกลับมาปิดลบ -USD7.7 ปิดที่ USD1,895.5/ออนซ์ หลังค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่า จากรายงานตัวเลข 2Q20 GDP สูงกว่าคาด

ประเด็นสำคัญ

- USA: เฟดประกาศขยายมาตรการห้ามธนาคารขนาดใหญ่ประกาศจ่ายปันผลหรือซื้อหุ้นคืนต่อไปจนสิ้นสุด 4Q20 (-กลุ่มธนาคารสหรัฐฯ)

- USA: ผลการหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวานนี้ ระหว่างประธานสภาผู้แทน นางเพโลซี กับ รมว.คลัง มนูชิน ล้มเหลว หลังจากก่อนหน้านี้ต่างแสดงความเห็นว่าจะสามารถตกลงกันได้ โดยสภาคองเกรสเสนอวงเงิน USD1.5Trn Vs พรรคเดโมแครตเสนอ USD2.2Trn ทาให้ต้องมีการเจรจากันต่อไป

– จีน: เริ่มเทศกาลวันหยุดยาว (golden week) ช่วงวันที่ 1-8 ต.ค. คาดส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงระยะสั้น (-กลุ่มเรือ PSL TTA RCL WICE JWD TVO) ขณะที่หมวดอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ CPF TFG TKN คาดว่าได้ประโยชน์จากอุปสงค์ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

+ จีน: สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สำรวจจากบริษัทขนาดใหญ่) รายงานภาคการผลิตอยู่ที่ 51.5 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 51.2 (Vs เดือน ส.ค. 51) โดยเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และแข็งแกร่งสุดตั้งแต่ มี.ค. โดยมีแรงสนับสนุนจาก output (54 Vs 53.5) new orders (52.8 Vs 52) ยอดส่งออก (50.8 Vs 49.1) ส่วนดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย. อยู่ที่ 55.9 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 54.9 (Vs เดือน ส.ค. 55.2) และสูงสุดรอบเกือบ 7 ปี โดยการจ้างงานเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น (49.1 Vs 48.3)

+ USA: 2Q20E GDP Growth ครั้งสุดท้าย -31.4% ดีกว่าคาดการณ์ที่ -31.7% QoQ (Vs 1Q20 -5% QoQ) เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับสูงขึ้นกว่าคาด

+ USA: การจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย. ดีกว่าคาดการณ์มาก เป็น 749k (Vs คาด 605 k และเดือน ส.ค. 481k ดีขึ้นจากเดิมที่ 428k)

– ไทย: ธปท. คาดเศรษฐกิจไทย 3Q-4Q20E จะเติบโตติดลบเฉลี่ย -8.5% YoY และเติบโตติดลบต่อเนื่องไปจนถึง 1Q21E ก่อนฟื้นตัวอย่างมีนัยใน 2Q21E

กลยุทธ์ลงทุน Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: JWD HANA PSL

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TKN ICHI GLOBAL CKP

Derivatives: Wait&see ชะลอลงทุนใน S50Z20 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)