ดีเบตรอบแรก ‘ทรัมป์-ไบเดน’ คุมเกมลำบากจุดชนวนเปลี่ยนกฏ

ดีเบตรอบแรก ‘ทรัมป์-ไบเดน’ คุมเกมลำบากจุดชนวนเปลี่ยนกฏ

ดีเบตรอบแรกระหว่าง‘ทรัมป์-ไบเดน’จบลงด้วยความผิดหวังของผู้จัดทำรายการ เพราะคุมเกมลำบาก คณะกรรมการจัดการอภิปรายของตัวแทนลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ จึงจะเปลี่ยนกฎดีเบตใหม่ ให้ดีกว่านี้ และอาจรวมถึงการปิดไมโครโฟนผู้ดีเบต

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า คณะกรรมการจัดโต้อภิปรายของตัวแทนลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเปลี่ยนกฎดีเบต หลังจากที่การโต้วาทีรอบเเรกระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์และอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนปะทะคารมเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยในการดีเบตรอบเเรกที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกเตือนบ่อยครั้งโดยพิธีกร คริส วอลเลสให้ทำตามกฎห้ามพูดแทรก เมื่อฝ่ายตรงข้ามแสดงทัศนะในหัวข้อที่พิธีกรเปิดประเด็นด้วยคำถาม

ในวันพุธ(30ก.ย.)คณะกรรมการจัดดีเบต กล่าวว่าหลังจากการโต้อภิปรายเมื่อคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าควรมีการเพิ่มกฎให้เกิดการแบ่งช่วงที่ชัดเจน และให้การแสดงทัศนะของเเต่ละฝ่ายนเกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

คณะกรรมการ กล่าวด้วยว่าจะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงอย่างระมัดระวัง และจะมีการแถลงกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในไม่ช้านี้

ดีเบตเมื่อวันอังคาร(29ก.ย.)ตามเวลาสหรัฐฯเป็นไปอย่างยากที่จะคุมเกมตามกติกา แทบจะตลอดช่วง 90 นาที โดยเเต่ละฝ่ายกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าขาดความเหมาะสมเป็นผู้นำประเทศ ในหัวข้อต่างๆ ตั้งเเต่การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูง การจัดการต่อการระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจ ความตึงเครียดในสังคมและเรื่องเชื้อชาติสีผิว รวมถึงความมั่นใจในกระบวนการเลือกตั้ง เป็นต้น

แต่ละช่วงของการอภิปรายหัวข้อต่างๆ มีการเถียงและแย่งพูดกัน นอกจากนี้จะเกิดการโจมตีด้วยคำพูดถากถาง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถูกโจ ไบเดนเรียกว่าเป็น “ตัวตลก” และเป็นประธานาธิบดี “ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน” ขณะที่ทรัมป์กล่าวสบประมาทสติปัญญา และผลงานของไบเดน

ตามตารางดีเบต ในสัปดาห์หน้า วันที่ 7 ต.ค. จะมีการโต้อภิปรายระหว่างผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี คือรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ที่จะลงคู่กับทรัมป์เป็นสมัยที่สอง และ ส.ว.คามาลา แฮร์ริสที่จะลงคู่กับโจ ไบเดน ส่วนทรัมป์และไบเดน มีกำหนดขึ้นเวทีดีเบตกันอีกสองครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ต.ค. ก่อนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย.