ธุรกิจการบินสหรัฐเสี่ยงตกงานกว่า 3 หมื่น

ธุรกิจการบินสหรัฐเสี่ยงตกงานกว่า 3 หมื่น

ธุรกิจการบินสหรัฐเสี่ยงตกงานกว่า 3 หมื่น หากรัฐไม่อัดฉีดเงินภายในเส้นตายวันพุธ(30ก.ย.)ตามเวลาสหรัฐ

พนักงานจำนวนกว่า 3 หมื่นรายในอุตสาหกรรมการบินสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างเริ่มตั้งแต่วันนี้ หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากรัฐบาลภายในเส้นตายวันพุธ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐให้เงินเยียวยาสายการบินสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คิดเป็นวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. โดยมีข้อแม้ว่า บริษัทเหล่านี้จะต้องไม่ปลดพนักงานจนถึงวันที่ 30 ก.ย.

ทั้งนี้ ผู้บริหารของสายการบินสหรัฐหลายแห่งได้เข้าพบนายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เพื่อขอให้รัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลืองวดใหม่จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่อุตสาหกรรมการบิน ก่อนที่มาตรการเดิมจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนก.ย.

ด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะทำการเจรจาครั้งใหม่กับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันนี้ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเขามีความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับนางเพโลซีในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งจะรวมถึงเงินช่วยเหลืองวดใหม่จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่อุตสาหกรรมการบิน

การทรุดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 5% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีติดลบ นับตั้งแต่ที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.1% ในไตรมาส 1 ของปี 2557

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 30% ในไตรมาส 3/2563 ขณะที่รัฐบาลกลับมาเปิดเศรษฐกิจ และส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นหลายล้านตำแหน่ง

หากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 30% ในไตรมาส 3/2563 ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเป็นการทุบสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 16.7% ในไตรมาสแรกของปี 2493

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/2563 ในวันที่ 29 ต.ค. ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.เพียง 5 วัน ซึ่งหากตัวเลขจีดีพีดังกล่าวออกมาแข็งแกร่งตามคาด ก็จะเอื้อประโยชน์ต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการครองทำเนียบขาวอีกสมัยหนึ่ง

ในปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 1 และ 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่เติบโต 2.1% ทั้งในไตรมาส 3 และ 4

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐไม่ต่ำกว่า 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของเขา