ราชกิจจาฯ ประกาศถอดยศ 3 ตำรวจ 'คดีหมอหยอง'

ราชกิจจาฯ ประกาศถอดยศ 3 ตำรวจ 'คดีหมอหยอง'

ราชกิจจาฯ ประกาศถอดยศ - เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 3 ตำรวจ "คดีหมอหยอง"

ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตํารวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ อดีตข้าราชการตํารวจ ออกจากยศตํารวจ ตามมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบระเบียบสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตํารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๑ (๒) (๔) และ (๖) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ ๖ ข้อ ๗ (๒) (๔) และ (๘) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ จํานวน ๑๐ ราย ดังนี้

๑.ร้อยตํารวจโท วันชนะ ผลพลังกุล ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีกระทําผิดอาญาฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือกและจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๒.พันตํารวจโท สมเกียรติ ทองสอาด ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย้างร้ายแรงฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์อันมิควรได้และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๓.ร้อยตํารวจโท เชาวริน ลัทธศักย์ศิริ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มี คําพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากกระทําความผิดอาญาฐานฉ้อโกงประชาชน และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และเครื่องราชอิสริยาภรณ์รามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ หน้า ๓  เล่ม ๑๓๗ ตอนที่ ๒๗ ข ราชกิจจานุเบกษา ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ๔. ร้อยตํารวจโท สุชาติ สุดบุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗

๔.ร้อยตํารวจโท สุชาติ สุดบุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานกระทําการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง โดยมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์เป็นข้าราชการจําหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทยและเหรียญจักรมาลา

๕.พันตํารวจเอก สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานกระทําการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง โดยกระทําผิดอาญาฐานร่วมกันลักทรัพย์ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา

๖.พันตํารวจโท ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ศาล ออกหมายจับ เนื่องจากต้องหาคดีอาญาฐานร่วมกันดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทําให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตําแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตําแหน่ง หรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับตนเองหรือผู้อื่น และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๗.พันตํารวจเอก ไพโรจน์ โรจนขจร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ศาล ออกหมายจับ เนื่องจากต้องหาคดีอาญาฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่ทําให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตําแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตําแหน่ง หรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับตนเองหรือผู้อื่น และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้าเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก

๘.พันตํารวจโท จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันที่ศาล ออกหมายจับ เนื่องจากต้องหาคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าทโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถ ออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันสมควรและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๙.พันตํารวจโท ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ ตั้งแต่วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ กระทําการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง กระทําหรือละเว้นการกระทําใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๑๐.พันตํารวจเอก เอกนรินทร์ ภุมม์สิมมานนท์ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มี คําพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากกระทําผิดอาญาฐานลักทรัพย์และทําร้ายร่างกายและเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน

ทั้งนี้ อดีตข้าราชการตํารวจทั้ง ๑๐ รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว

ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/B/027/T_0003.PDF