'เฌอเอม ชญาธนุส' น้อมรับ หลังถูกตัดสิทธิ์ชิงมง MUT 2020

'เฌอเอม ชญาธนุส' น้อมรับ หลังถูกตัดสิทธิ์ชิงมง MUT 2020

"เฌอเอม ชญาธนุส" น้อมรับ หลังกองประกวดตัดสิทธิ์ชิงมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ระบุเสียใจยังแสดงความสามารถไม่เต็มที่

จากกรณีกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แถลงข่าวตัดสิทธิ์ "เฌอเอม" ชญาธนุส ศรทัตต์ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 82 ออกจากการประกวดในครั้งนี้ เพราะมีพี่เลี้ยงแฝงตัวเข้ามาเป็นทีมงานในกองประกวด

ล่าสุด เฌอเอม ชญาธนุส และ เคน สิทธิชัย ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางรายการ “คุยแซ่บ Show” โดยมี หนิง ปณิตา และ ใบเฟิร์น พัสกร รับหน้าที่พิธีกร

จริงๆ วันนี้กองประกวดมีการแถลงข่าวและเชิญเฌอเอมกับเคนไปด้วย ทำไมถึงเลือกไม่ไป?
เฌอเอม : อันนี้ต้องยอมรับว่าช่วงแรกที่เกิดเรื่อง เราไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพราะไม่แน่ใจว่าเราพูดได้มั้ย พอเรารู้ว่าอาจจะไม่มีโอกาส เราก็เลยตัดสินใจรับรายการก่อน แต่เมื่อทางกองยืนยันว่าโอเค แถลงได้ เราจึงรีบจัดแถลง

แต่ทั้งนี้เราไม่สามารถที่จะไม่รับผิดชอบกับสัญญาที่เราตกลงไว้ด้วยได้ เนื่องจากเอมไม่สามารถตอบทางกองได้ทันจริงๆ ว่าเอมสามารถไปได้หรือไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นกะทันหันมาก ยังไงก็ขอบคุณกองนะคะที่เชิญเอมและขออภัยจริงๆ ที่ไม่ได้ไป ยังไงเราก็ได้พบกันใหม่อยู่แล้ว

ถามว่าทำไมถึงเลือกมารายการคุยแซ่บ Show เอมคิดว่าใครก็ตามที่ให้โอกาสกับเรา หรือสนใจเราในช่วงที่มืดมนที่สุด เราก็ต้องรักษาสัญญากับเขาก่อน อีกอย่างคือกับทางกอง เอมจะเข้าไปคุยด้วยตนเองอยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นวันนี้ค่ะ

ถามว่ามีการคุยไหมว่าจะมาตรงนี้ก่อนแล้วของเขาเวลาชนกัน มีการขอเลื่อนเวลาไหม เอมก็แจ้งเขากลับไปค่ะว่าเอมไปไม่ได้จริงๆ แต่ทั้งนี้เรื่องการเลื่อนเวลา เอมมีตัวคนเดียว แต่คนอื่นในกองที่จะแถลงของเขามีเยอะมาก ก็อาจจะไม่สามารถเลื่อนได้ทั้งสถานที่ ทีมงาน และหลายๆ อย่างค่ะ

\'เฌอเอม ชญาธนุส\' น้อมรับ หลังถูกตัดสิทธิ์ชิงมง MUT 2020

หลังแถลงข่าวไป ได้ดูฟีดแบ็กไหม?
เฌอเอม : ไม่ได้ดูนะคะ กลับบ้านไปก็นอน เพราะเมื่อวานเป็นวันที่เหนื่อยมากจริงๆ ค่ะ อยากจะคิดอะไรหลายอย่างกับตัวเองมากกว่า เรื่องที่คนวิจารณ์ว่าเหมือนเราพยายามเค้นจะร้องไห้ อยากบอกอะไรคนที่ไม่เข้าใจมั้ย ขอโทษที่หนูร้องไห้แล้วดูไม่สวยนะคะ หน้ามันอาจจะดูบีบคั้นมากไปหน่อย แต่ปกติหนูร้องไห้แล้วหน้าเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ

สิ่งที่อึดอัดใจที่สุดในการแถลงข่าวเมื่อวาน คงเป็นเพราะเราไม่เคยนั่งอยู่หน้ากล้องที่เยอะขนาดนั้นมาก่อน กดดันค่ะ มันต่างจากรอบออดิชั่น เพราะตอนนั้นสุดท้ายเราทราบว่ามันผ่านไม่ผ่าน แต่ตอนนี้มันเป็นการตัดสินของสังคม ที่สำคัญคือเราจะดูจริงหรือไม่จริงมันไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา มันเหมือนกับว่าเรามาสู้ เรามาเข้าสงครามโดยที่เรามีมีดเล่มเดียวค่ะ ปกติถ้าเอมไม่กดดัน เอมจะพูดไม่ติดขัดเลย

แต่เมื่อวานยอมรับว่าติดขัดมาก และมีหลายครั้งที่เราไม่สามารถพูดได้ เหมือนมันติดอยู่ในคอค่ะ มันกดดันตรงที่สังคมตัดสินเราไปก่อนแล้ว และแม้ว่าเขาลดการอคติออกไป แต่มันเป็น first impression ที่มันไปอยู่ในใจเขาแล้วค่ะ มันเหมือนไปอยู่ในจิตใต้สำนึกค่ะ เราก็เลยรู้สึกว่าเราสู้กับกระแสลมที่แรงเกินไปแล้วมันจะปลิวตลอด

เรามองว่าคนมองว่าเราแก้ตัว?
เฌอเอม : ประมาณนั้นค่ะ แต่ไม่อยากจะพูดเหมือนกับว่าเขาอคติมากเกินไป เพราะเอมเข้าใจว่าทุกคนมีความคิดเรื่องศีลธรรมเป็นของตัวเอง และมันดีอยู่แล้วที่เขาเห็นอะไรไม่ถูกต้องแล้วทักขึ้นมา

ทางกองประกวดแถลงข่าวบอกว่า ตอนกรอกใบสมัคร เฌอเอมกรอกใบสมัครชื่อคุณณัฐพลไว้ในช่องพี่เลี้ยง แต่ใส่คำว่าตำแหน่งเลขาฯ?
เฌอเอม : ถ้าใครเคยเห็นไอจีเอมตั้งแต่ก่อนถ้าติดต่องานจะเป็นไลน์ของคนนี้ ถ้าติดต่องานจะติดต่อคุณณัฐพล ต้องเข้าใจว่าโบรกเกอร์ไม่ได้ดีลให้เราทั้งหมด มันอยู่กับจ๊อบที่เขาหามา เอมก็ดีลเองได้ แต่ทีนี้เอมให้คุณณัฐพลมาทำในงานเลขาฯ คือติดต่อดีล แต่ด้วยงานที่เกินกำลัง หรืออาจไม่เหมาะกับเขา เขาก็ถอนตัวไป แล้วตอนนั้นเราดีลไม่ทัน เลยคิดว่าจะมีใครที่สามารถดีลงานให้ได้บ้าง ก็เลยลงเบอร์ของพี่เคนไปค่ะ

\'เฌอเอม ชญาธนุส\' น้อมรับ หลังถูกตัดสิทธิ์ชิงมง MUT 2020

ในวันที่เฌอเอมตัดสินใจลงประกวด วันนั้นคุณเคนทราบมั้ย?
เคน : ตอนแรกพูดกันทีเล่นทีจริงว่าหนูจะลงนะ ก็บอกว่าเฮ้ย ลงได้เหรอ ไม่เหมาะมั้ง จนวันที่เห็นเขาไปยื่นใบสมัคร ก็เลยเฮ้ย เอาจริงว่ะ รู้จริงๆ คือวันนั้น ที่บอกว่าไม่เหมาะเพราะด้วยความที่เราชอบดูนางงาม และมีนางแบบหลายคนเป็นนางงาม แต่นางแบบเหล่านั้นดูมีความเป็น feminine น่ารัก ละมุน แต่ลุคเขาดูเป็นคนสู้คน ไม่ feminine

เรื่องแชตหลุด 79 หน้า มันมีการแชตคุยตั้งแต่เดือน ก.ค.?
เคน : เห็นแล้วครับ ต้องขอบคุณสำหรับแชตหลุดอันนั้นที่ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้เป็นคนส่งเขาจริงๆ มันจะมีแชตในหน้าแรกที่บอกว่าสวัสดีค่ะ หนูชื่อ...เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ ถ้ามองดูรวมๆ ในแชตทั้งหมดนั้น เขาถามว่าจะต้องทำยังไง เราก็พูดถึงเรื่องว่าจะต้องวางตัวยังไง ทั้งหมดคือการคุยทั่วไป ไม่มีอะไรที่เป็นความลับของทางกองที่เข้าไปสู่ในบทแชตนั้นเลยครับ เรื่องการตอบคำถาม 30 วินาที อันนี้ทุกคนโดนถามสดหมดเลย เราไม่รู้กระบวนการและคำถามมาก่อนครับ

เฌอเอม : เบื้องต้นเอมเป็นคนพูดยาวอยู่แล้ว น่าจะรู้สึกบ้าง ฉะนั้นเอมก็ต้องฝึกพูดให้ทัน 30 วินาที เพราะเรารู้ว่ารอบไฟนอล ทุกคนต้องตอบ 30 วินาที ซึ่งทุกเวทีประกวดแบบนี้ค่ะ

กฎของกองประกวด เขาไม่ให้คนที่ส่งนางงามเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง แต่วันที่คุณเคนตัดสินใจเข้าทำงานกองประกวด คุณเคนต้องรู้อยู่แล้วว่าเฌอเอมเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวด ทำไมถึงยังตัดสินใจเข้าไปทำงานกองประกวดนั้น?
เคน : คือก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีโควิด เราก็ขายอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งหมดโควิดมา เราก็ยังเห็นว่ายังมีการจัดกองประกวดอยู่ แต่เราไม่สามารถขายอะไรได้เลย เราเข้าใจว่าโอเค เราเป็นฟรีแลนซ์ก็คงไม่ได้เข้าไปในกองแล้วมั้ง จนกระทั่งหลังจากวันแถลงข่าวไปแล้วก็มีการติดต่อมาว่าอยากได้สปอนเซอร์เรื่องความสวยความงาม โปรดักต์ผม

เราก็เลยติดต่อหลังจากที่แถลงข่าวว่าจะจัดการประกวดไปแล้วประมาณเกือบอาทิตย์ เราก็เป็นคนติดต่อให้ ณ ตอนนั้น และระหว่างนั้นเรามีการพูดคุยกับลูกค้าว่าจะดีลกันไปในการประกวดแบบนี้นะ พอเรารู้ว่าเฮ้ย ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องเป็นคนในกองสิ ก็จะเห็นได้ว่าในหน้าแชตสุดท้าย เราออกจากกรุ๊ปแชตก่อนจะเข้าไปทำงานในกอง

แต่ถ้าเราเข้าไปทำงานในกอง แล้วเราเป็นหนึ่งในคนหางานให้น้อง เราแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางกองไหมว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เป็นโบรกเกอร์ของน้องเฌอเอม?
เคน : อันนี้เราไม่ได้แจ้งทางกองประกวด แต่ด้วยหน้าที่ของเรา พอเราขายสปอนเซอร์ชิปได้แล้ว เราก็ต้องไปดูลูกค้า เราดูแต่ลูกค้า เราไม่มีสิทธิ์ไปเกี่ยวข้องกับตัวนางงามเลย เรื่องคำถาม 30 วินาที โดยมาตรฐานการประกวดทั่วไป ทุกเวทีมีหมด เราจะเห็นได้ว่าที่ทุกคนเก็งข้อสอบ มันจะมีข้อสอบประมาณนี้ ตอบแบบนี้ เวลา 30 วินาทีเป็นมาตรฐานในการตอบคำถามครับ”

เรื่องแชตมีการเริ่มต้นตั้งแต่ 11 ก.ค. จนถึง 23 ส.ค. คือวันที่เคนออกจากกรุ๊ปไป ซึ่งไทม์ไลน์การประกวดมีการเปิดรับวันที่ 4-20 ส.ค. เท่ากับแชตนี้สร้างมาก่อนที่กองประกวดจะรับสมัครประมาณ 1 เดือน ตอนนั้นเคนทำงานกองประกวดรึยังก่อนแชตนี้จะสร้างขึ้นมา?
เคน : พอเป็นฟรีแลนซ์จะผลุบๆ โผล่ๆ เพราะเราขายงานอะไรไม่ได้ ในความเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำงานแล้ว เราไม่ได้อยู่ในกอง จนกระทั่งแถลงข่าว พอแถลงข่าวเสร็จปุ๊บก็มีการติดต่อมาให้เราหาสปอนเซอร์ในไลน์โปรดักต์ให้ เราก็หาให้ได้หลังจากนั้น เราเพิ่งได้รับการติดต่อให้เข้าไปในกองหลังจากรู้ว่าน้องยื่นใบสมัครไป เพราะก่อนหน้านี้เราไม่รู้ตัว

กองประกวดแถลงข่าวทุกครั้งที่ประชุม เคนจะแฝงตัวอยู่ในทีม และประชุมมากกว่า 5 ครั้ง และพี่ปุ้ยเคยไว้ใจและสั่งงานด้วยตัวเอง?
เคน : เข้าไม่ถึง 5 ครั้งแน่นอนครับ เพราะทุกครั้งที่เข้าไปก็คุยว่าวันนี้ขายอะไรได้บ้าง ตามลูกค้าอะไรได้บ้าง พอหลังๆ เราแค่รู้สึกว่าถ้าเราเข้าไป เราจะต้องรายงานแค่เรื่องว่าขายอะไรได้บ้าง เราก็เลยไม่ได้เข้าประชุม และขออัปเดตในไลน์งานดีกว่า แต่ยังสามารถตามเราได้ตลอด

วันที่เฌอเอมกับเคนทราบว่าต้องมาอยู่ในกองประกวดเหมือนกัน เราได้คุยกันมั้ยว่าทำแบบนี้เสี่ยงผิดกฎ?
เฌอเอม : อันดับหนึ่งนะคะ เอมไม่เคยเห็นกฎข้อไหนที่บอกว่าห้ามมีความสัมพันธ์กับคนในกอง แต่การที่เราจะแน่ใจได้ เอมต้องมี MOU คู่สัญญาฉบับนั้นกับตัวค่ะ ซึ่งมีความยาว 4-5 หน้า แต่ว่าเอมมีเวลาพิจารณาน่าจะไม่เกิน 1 ชม. เซ็นแล้วต้องส่งคืนเลย ทำให้ไม่รู้ว่ามีกฎอะไรบ้าง และถ่ายรูปไว้ไม่ได้

แต่เอมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มี เพราะถ้าจะพูดถึงความสัมพันธ์กับคนในกอง เพียงแค่รู้จักกันฉันพี่น้อง มันก็นับแล้วแล้วอีกอย่างเอมไม่เคยเอาเบอร์พี่เคนลง เพราะฉะนั้นถ้าจะปิดบัง หรือคิดว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมากตั้งแต่ต้น เอมก็คงไม่ keep เบอร์ไว้ตรงนั้น

เฌอเอม ชญาธนุส

เขาบอกว่าวันสัมภาษณ์ในห้องปฐมนิเทศ น้องบอกว่ามีพี่เลี้ยงคือเพื่อนสนิทที่ชื่อมุก แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่าใช่เพราะมุกดูไม่ค่อยรู้เรื่อง?
เฌอเอม : เอมขอแก้ข้อนึงก่อนนะคะว่าคนชื่อมุกไม่เคยเป็นพี่เลี้ยง เขาแค่มาช่วย เพราะช่วงนั้นเอมส่งตัวเอง และส่งตัวเองมาตลอด ก็ขอให้ทิ้งประเด็นนี้ไป ซึ่งคนชื่อมุกเป็นเพื่อนเอม เขาช่วยถือของให้เอมเวลาไปกองเฉยๆ ค่ะ เป็นผู้ช่วยค่ะ

เขาบอกอีกว่ามีวันนึงเจอเฌอเอมและเคนเดินมาแนะนำตัวกับพี่ปุ้ย และบอกว่าเป็นผู้จัดการ พี่ปุ้ยยังแซวไปว่าผู้จัดการเคน วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เฌอเอม : เกิดขึ้นอย่างที่แถลงไปเมื่อวาน คือเข้าไปและซักถามว่าต่อจากนี้ถ้าจะให้เป็นผู้จัดการโอเคมั้ย เท่านี้ค่ะ คือวันนั้นเราเดินเข้าไปและบอกว่านี่พี่เคน พี่ที่รู้จักกัน แล้วต่อจากนี้อยากให้เขาดูแลเป็นผู้จัดการ แล้วทางกองประกวดก็ไม่ได้ว่ายังไงค่ะ อย่างที่บอกว่าอาจมีความสับสนในเรื่องโบรกเกอร์กับผู้จัดการ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่พี่เลี้ยงค่ะ

กองประกวดบอกว่าเคนประชุมครั้งสำคัญหลายครั้ง ทำให้รู้ข้อมูลเชิงลึกของกองประกวด และมีการจัดซีนให้สัมภาษณ์เฌอเอมมากกว่าคนอื่น อีกทั้งพนักงานคนอื่นเซ็นสัญญาหมด มีคนเดียวหลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญารักษาความลับกองประกวดคือเคน?
เคน : เรื่องหลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญา ถ้าผู้ใหญ่แจ้งว่าเราหลีกเลี่ยง และทุกคนที่ไปช่วยทางกองประกวด พนักงานเซ็นหมดทุกคน ฉะนั้นแสดงว่าวันนั้นทุกคนเข้าประชุม แล้วทำไมผมไม่ได้เอกสาร ทำไมผมไม่ได้เซ็น ผมไม่เห็นหน้าตาเอกสารเลยครับ ถามว่าทำไมเขาถึงคิดว่าได้รับเอกสารแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นการคลาดเคลื่อนของการพูดคุยสื่อสาร เพราะถ้าผมได้เอกสารจริงๆ และทุกคนได้เซ็นเอกสารพร้อมกัน ผมก็น่าจะผ่านตาและเห็นบ้าง แต่วันนั้นผมไม่ได้ไปประชุมแน่นอน ถ้าผมไปประชุมและเห็นเอกสาร เรื่องวันนี้น่าจะไม่เกิดขึ้น ถามว่าเพื่อนเออีได้พูดคุยเรื่องเซ็นเอกสารมั้ย ไม่ได้พูดคุยเลยครับ

จนถึงตอนนี้ ในมุมของเรา เราคิดว่าผิดกฎกติกามั้ย?
เคน : เอาเข้าจริงๆ ด้วยตัวเอกสารเราไม่เห็น เรื่องกฎเราไม่ได้ศึกษามาก่อนว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยอะไรบ้าง

กองประกวดแถลงตัดสิทธิ์การประกวดของเฌอเอมแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?
เฌอเอม : เอมก็ขอน้อมรับการพิจารณาของกองประกวดค่ะ จริงๆ รู้อยู่แล้วว่าอาจจะเกิดขึ้น แต่พอเกิดขึ้นจริงก็เสียดายค่ะ เพราะเรารู้สึกเหมือนว่าเรายังทำอะไรสักอย่างไม่เสร็จ เหมือนถูกทำให้ต้องยุติก่อนที่เราจะรู้ว่าผลลัพธ์ว่าเป็นยังไง จะทำได้ดีที่สุดไหม ก็เลยเสียดายเพราะกังขากับความสามารถของตัวเองในอนาคต

ถามว่าเสียใจขนาดไหนที่ไปในทางเส้นนี้ไม่ได้ เอมเสียใจที่สุดที่เรื่องมันเลยเถิดแบบนี้ เพราะมันเกิดจากความเข้าใจผิดเล็กน้อยจริงๆ เอมรู้สึกว่าถ้าเราสื่อสารกันดีกว่านี้ ถ้าไม่มีการโพสต์เกิดขึ้น ตอนนี้เรายังจะทำกิจกรรมอยู่มั้ย หรือเราจะเป็นยังไงค่ะ

กองประกวดตัดสินว่าเราทำผิดกฎกติกาของกอง เราคิดว่าเราผิดกฎกองประกวดมั้ย?
เฌอเอม : เอมต้องการดู MOU คู่สัญญาค่ะ และเอมต้องการเวลาที่จะอ่านมันและปรึกษาทนาย เพราะหากบอกว่าสัญญารักษาความลับ ความลับก็ไม่เคยแพร่ออกไปที่ไหน หากบอกว่าห้ามมีพี่เลี้ยงเป็นคนในกอง วันที่เอมอยู่ในกอง พี่เคนก็ไม่ได้เป็นพี่เลี้ยง และวันที่พบพี่ปุ้ยกับพี่ณะ เอมกับพี่เคนก็ไม่ได้เข้ากองค่ะ

หลังจากนี้จะทำยังไงต่อไป?
เฌอเอม : เอมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ค่ะ คิดว่าตอนนี้ก็คงพักไปก่อน เพราะเราอยากจะเคลียร์หลายอย่างให้จบ และที่สำคัญเอมคิดว่าหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อกล่าวหาของเรา คือไม่ใช่ข้อกล่าวหาในทางกฎหมายนะคะ แต่เป็นสิ่งที่คนคิดว่าเราเป็น บางทีต้องใช้เวลา เพราะเมื่อเรื่องมันยังสดใหม่ร้อนแรง มันอาจมีหลายอย่างดูย้อนแย้งหรือไม่ลงล็อก หรือเป็นความรู้สึกในใจของผู้ดู

อยากบอกว่าเอมก็ตั้งใจใช้ชีวิตต่อไปแบบปกติ สุจริต ที่สำคัญไม่ว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ในวงการ เอมอยากขอบคุณเวทีที่ให้โอกาส ให้ช่วงเวลาดีๆ ช่วงนึงในชีวิตของเอม หลังจากนี้ถ้าคุณพบเจอเอมข้างนอก ไม่ว่าเอมทำอะไรอยู่ ก็อยากให้ลบภาพเฌอเอมทิ้งไป ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่อยากจะคิดถึงเรื่องตอนนี้ แต่เป็นเพราะอยากให้คนจำแค่สิ่งที่เราทำให้สังคมจริงๆ หนูไม่อยากยึดติดสิ่งเหล่านี้ว่าจะอยู่กับเราตลอดไป

จะแถลงข่าวเคลียร์อีกรอบมั้ย?
เฌอเอม : จริงๆ เมื่อวานบอกไปแล้วว่าไม่อยากฟ้องร้อง และยังไม่คิดเรื่องนี้ เพราะคิดว่าท้ายที่สุดความกระจ่างใสมันก็ดีกว่า แต่ยังไงก็ตาม เรายังไม่รู้ว่ามันจะมีการดำเนินอะไรต่อไหมจากทางเวทีด้วย ฉะนั้นจะรอดูสถานการณ์ก่อนค่ะ

ทางคุณเคนจะมีการดำเนินการเรื่องกฎหมายต่อมั้ย?
เคน : เรื่องกฎหมายเป็นเรื่องอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่จะอธิบายก่อนว่า ตลอดระยะเวลาการทำงาน ผมไม่เคยได้รับเงินสักบาทจากการทำงานครั้งนี้เลย และไม่รู้ว่าน้องๆ ได้รับเงินกันบ้างแล้วรึยัง

ฝากถึงกองประกวด?
เฌอเอม : ก่อนอื่นก็ (ยกมือไหว้) ขอขอบพระคุณทางกองประกวดจากใจจริงที่ทำให้เอมขึ้นมาพูดในเรื่องที่เอมรู้สึกว่ามันสำคัญ และมีโอกาสให้เราพิสูจน์ว่าทุกอย่างในชีวิตที่เราประสบมานั้น มันเกิดขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ และเราได้ใช้ความรู้สึกในอดีตเหล่านั้นเพื่อทำให้ผู้คนในปัจจุบันมีแรงบันดาลใจ และมีความสุข

แม้ว่าเอมจะทำให้หลายคนผิดหวัง ทำให้ความฝันที่หลายคนฝากไว้กับเอมพังทลายลงไปด้วยความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุการณ์คืนนั้นเพียงคืนเดียว เอมก็อยากบอกทุกคนว่า มันคงจะดีกว่าถ้าทุกคนมีความฝันเป็นของตัวเอง และรู้จักลุกขึ้นมาหลังจากที่ล้ม วันนี้ถ้าใครอยู่กับเอม ให้โอกาสเอม เอมจะจำตลอดไป เพราะอย่างที่เอมพูดในวันออดิชั่นก็คือ โอกาสเป็นเพียงความเมตตาที่เล็กน้อยเท่านั้น วันนึงเอมก็อาจจะเป็นโอกาสให้หลายๆ คนก็ได้ แม้ว่าเอมอาจจะไม่ได้ดีพร้อมในสายตาของใคร แต่ขอแค่เก็บสิ่งที่ดีไว้ก็พอค่ะ