'คุรุสภา' ตรวจใบประกอบวิชาชีพครู รร.สารสาสน์ ได้แค่ 98 ราย

'คุรุสภา' ตรวจใบประกอบวิชาชีพครู รร.สารสาสน์ ได้แค่ 98 ราย

คุรุสภาตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครู สารสาสน์ วิเทศ ราชพฤษ์ ได้รับข้อมูแค่ 98 คน เหตุโรงเรียนมีปัญหาระบบจัดเก็บข้อมูล เผยครูร่วมชั้นครูจุ๋ม 4 ราย ไม่มีใบอนุญาติ จ่อแจ้งดำเนินคดีวันพรุ่งนี้ เล็งตรวจสารสาสน์ทุกสาขา

นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังนำคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเ กองจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ เข้าตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ครูโรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ ราชพฤกษ์ หลังเกิดปัญหาจากพฤติกรรมครูที่ไม่เมาะสม โดยการตรวจสอบใช้เวลากว่า5ชั่วโมง

เลขาธการคุรุสภา ระบุว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพครูไปแล้ว 98คน จากทั้ง 411 คน ขณะนี้ทางโรงเรียนหาหลักฐานมาแสดงได้แค่เพียง 98 คน ซึ่งโรงเรียนยังไม่สามารถตามหาเอกสารใบประกอบวิชาชีพที่เหลือได้เนื่องจาก มีปัญหาที่ระบบจัดเก็บข้อมูลม ในเบื้องต้นพบว่าครูทั้ง4 ราย ที่เป็นข่าวได้แก่ ครจุ๋ม ครูเปิ้ล ครู่นิ ครูมาร์วิน ชาวฟิลิปินส์ พบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่ก็ต้องดูว่าทางโรงเรียนว่าจ้างมาทำหน้าที่ในตำแหน่งใด ในกรณีที่โรงเรียนจ้างมาสอนแต่ไม่มีใบอนุญาต จะมีความผิด แต่หากยืนได้ว่า ไม่ได้จ้างเป็นครู ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับคุรุสภา หรือ พฤติกรรมที่ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นครูจะมีความผิด จึงต้องพิจารณาให้ชัดเจน ทางคุรุสภาก็ให้ความเป็นธรรมได้มีสิทธิ์ชี้เเจง ซึ่งภายในวันนี้ หรือ วันพรุ่งนี้ จะสามารภแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง4คนได้ก่อน ส่วนที่เหลืออีก9คนที่ปรากฎตามคลิป และใช้ความรุนแรงกับเด็กก็จะค่อยๆไล่ตรวจ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 290 คน จะตัองใช้เวลาตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ยังเร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ คาดว่าต้องใช้เวลานานสักระยะ

ส่วนกรณีที่ทางผู้บริหารโรงเรียนได้ชี้แจ้งว่า ครูทั้ง 4 คนและครูจุ๋ม ที่สอบก่อเหตุในคลิปห้องเรียนเดียวกัน โรงเรียนได้รับการผ่อนจากกทางคุรุสภาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการยื่นขอผ่อนผัน โดยโรงเรียนอ้างว่าจะยื่น ซึ่งคำว่าจะยื่น ทางคุรุสภาก็รับไม่ได้ แม้ทั้ง 4 คนจะลาออกจากโรงเรียนแล้ว การเอาผิดดำเนินการตรากฏหมาย สามารถเอาผิดย้อนหลังได้

เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องหยุดการเรียนการสอน เพราะหยุดการเรียนนั้น การปิดสถานศึกษาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะเกิดผลกระทบวงกว้าง

นาย ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา ระบุด้วยว่า จากกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ทางคุรุสภาต้องคุมเข้มในการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนอีกหลายเเห่ง และอาจจะต้องคุยกับสำนักงานคณะกรรมการส่วเสริมการศึกษาเอกชน ตรวจสอบเพื่อตรวจสอบใชประกอบวิชาชีพ โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้ง 42 แห่ง รวมถึงโรงเรียนอื่นๆ เพื่อดำเนินการป้องกันปัญหาในอนาคตการไม่วางระบบ ไม่มีข้อมูล โรงเรียนจ้างใครมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนก็ไม่รู้ ฐานข้อมูลไม่มี จึงเกิดปัญหา การกำกับจึงตัองวางระบบให้ชัดเจน เชื่อว่าปัญหานี้ ไม่ใช่ที่นี่เเห่งเดียว จึงต้องทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย ปัองกันปัญหาในอนาคต