TACC - ซื้อ

TACC - ซื้อ

ประมาณการ 3Q63F: คาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่

Event

ประมาณการ 3Q63F

lmpact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TACC ใน 3Q63F จะอยู่ที่ 50 ล้านบาท (+20.0% YoY, +3.9% QoQ) ซึ่งหากเป็นไปตามที่เราคาดไว้ กำไรสุทธิใน 3Q63F และ 9M63F จะคิดเป็น 26% และ 74% ของประมาณการกำไรปีนี้ที่ 189 ล้านบาท เราคาดว่ายอดขายของ TACC จะอยู่ที่ 331 ล้านบาท (-10.0% YoY, +2.9%QoQ) ขณะที่คาดว่าต้นทุนขายจะอยู่ที่ 217 ล้านบาท (-14.3% YoY, +2.5% QoQ) ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 3.3ppts YoY และ 0.3ppt QoQ เป็น 34.5% ใน 3Q63 เนื่องจาก i) ขายสินค้าที่มี margin สูงได้เพิ่มขึ้น ii) บริหารจัดการต้นทุนได้ดี (ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง บริหารต้นทุนค่าขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ) และ iii) คุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดี

คาดว่าจะคุมต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

กำไรของบริษัทใน 1H63 ยังโตได้ถึง 24% YoY แม้ว่ารายได้จากยอดขายและการให่บริการจะลดลง 14%YoY เนื่องจาก i) บริษัทสามารถคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ต้นทุนวัตถุดิบอยู่ในระดับเหมาะสม และกดให้ต้นทุนในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าลดลง ii) สัดส่วน SG&A/ยอดขายลดลง สำหรับในระยะต่อไป TACC จะยังคงได้อานิสงส์จากโมเมนตั้มของการบริหารต้นทุนการจัดเก็บและขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่องจากที่เกิดขึ้นใน 2Q63 โดยบริษัทได้ทำการรวบรวมคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งหมด เพื่อจัดส่งเป็นจำนวนมากแทนที่จะจัดส่งทีละน้อย ๆ เหมือนในอดีต

คงประมาณการกำไรปี 2563-64 เอาไว้เท่าเดิม

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563F ไว้ที่ 189 ล้านบาท (+16.8% YoY) และปี 2564F ที่ 222 ล้านบาท (+17.2% YoY) ซึ่งคาดว่ากำไรจะโตจาก i) กำไรจากเครือข่ายร้านค้าในปัจจุบันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ii) การขยายสาขาร้าน 7-Eleven iii) การวางจำหน่ายสินค้าใหม่ ๆ และ iv) margin ที่เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทก็แข็งแกร่งโดยมีสถานะเงินสดสุทธิ ในขณะที่ ROE ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ จาก 24.5% ในปี 2562 เป็นเฉลี่ย 26.3% ในอีกสองปีข้างหน้า

Valuation & Action

เราชอบ TACC จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราคาดว่ากำไรของบริษัทจะโตถึง 17%CAGR ในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจาก i) กำไรจากเครือข่ายร้านค้าในปัจจุบันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ii) การขยายสาขาร้าน 7-Eleven iii) การวางจำหน่ายสินค้าใหม่ ๆ และ iv) margin ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ เรายังคงแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ไว้ที่ 8.00 บาท (อิงจาก P/E ปี FY64F ที่ 21.8x คิดเป็น PEG ที่ 1.26x)

Risks

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด และความขัดแย้งทางการเมือง