'หญิงหน่อย' ไม่ขัด หาก 'หญิงอ้อ' จะมาคุมทัพเพื่อไทย 

"คุณหญิงสุดารัตน์" ไม่ขัด หาก "หญิงอ้อ" จะมาคุมทัพเพื่อไทย  ปัดลาออกประธานยุทธศาสตร์ เพื่อเตรียมลงชิงผู้ว่า กทม. เผยแม้ลาออกจากพรรค ยังคงมีที่ยืน มีงานหลายอย่างต้องทำให้กับประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย  เปิดเผยว่า การลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ปรับโครงสร้าง เพราะการทำงานต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่ยืนยันยังเป็นสมาชิกของพรรค ที่พร้อมยืนทำงานดูแลทุกข์สุขของประชาชน และจะต่อสู้ร่วมกับประชาชนเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ผู้มีอำนาจยอมเสียสละ เพราะเห็นว่าการแก้ไขบ้านเมืองอย่างสันติมีทางเดียวคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมอยากให้ผู้มีอำนาจร่วมหาทางออก แต่ทั้งนี้ ส.ว. ยังเป็นใจกลางของปัญหา จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก

พร้อมย้ำว่า เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้ แต่ไม่ขอรับตำแหน่งหลังมีกระแสข่าวว่าถูกทาบทามให้เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่เชื่อว่า มิติการทำงานของพรรคก็จะเดินหน้า และเชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะบริหารงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการลดบทบาท เพราะงานภายในพรรคยังมีอีกหลายเรื่อง และหลังจากนี้จะได้เดินหน้าลงพื้นที่ดูแลประชาชนได้มากขึ้น

ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าหลังจากนี้คุณหญิงสุดารัตน์ จะลงรับสมัครผู้ว่า กทม. นั้น ยืนยันว่า ตนเองทำหน้าที่สรรหาผู้ที่จะมาทำหน้าที่เปลี่ยนกรุงเทพ ทั้งคนที่จะมาลงสมัครผู้ว่า กทม. ,สภากรุงเทพมหานคร ,และทีมงาน พร้อมยืนยันว่า การลาออกจากประธานยุทธศาสตร์ของพรรคไม่ได้ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่


คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร จะเข้ามาบริหารพรรคเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจลาออกจากประธานยุทธศาสตร์หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจลาออก และยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าคุณหญิงพจมานจะเข้ามาดูแลพรรคจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี


ส่วนเรื่องการลาออกครั้งนี้เพื่อไปร่วมรัฐบาลแห่งชาตินั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ได้พูดหลายครั้งว่ารัฐบาลแห่งชาติไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และไม่มีทางไปร่วมสังฆกรรม เพราะได้พิจารณาแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นการยื้อเวลาเท่านั้น และไม่เป็นประโยชน์ เพราะมองว่าทางออกของปัญหาคือการแก้รัฐธรรมนูญ

ด้านอดีตกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล กล่าวถึงการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยว่า ที่ผ่านมาหลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมืองก็ไม่ได้ มีตำแหน่งในพรรค เพียงแค่ทำหน้าที่กรรมการยุทธศาสตร์ ที่คุณหญิงสุดารัตน์ เชิญมาร่วมทำงาน โดยเฉพาะในแง่มุมของกฎหมายว่าพรรคควรจะทำอะไร ที่ผ่านมามรการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะสามารถเป็นทางออกจากความขัดแย้งของประเทศได้


ทั้งนี้ ปฏิเสธให้แสดงความคิดเห็นกรณีโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยยังคงติดลบในมุมมองของคนรุ่นใหม่ โดยยืนยันว่า ส่วนตัวที่เข้ามาอยู่มนพรรคเพื่อไทยคาดหวังให้พรรคพัฒนาเป็นสถาบันทางการเมือง และเชื่อว่าการเดินหน้าของพรรคหลังจากนี้ คาดหวังให้กรรมาการชุดใหม่ทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่สมบูรณ์ขึ้น