คาดฟื้นตัวขึ้นทดสอบ 1,269 ยังแค่เลือกเก็งกำไรรายตัว

ประเด็นติดตามที่สำคัญ 1) คะแนนนิยมของผู้สมัครทั้ง 2 โดยเฉพาะหลังการโต้วาที (debate) นัดแรก 2) การฟื้นของหุ้นสหรัฐฯ จากความคาดหวังการบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ซึ่งมีเวลาถึงก่อนปิดสมัยประชุม 9 ต.ค. มิเช่นนั้นคาดว่าจะล่าช้าไปจนหลังการเลือกตั้ง 3) การชุมนุมทางการเมืองของไทยในวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งหากจำนวนผู้ชุมนุมลดลง จะทำให้นักลงทุนประเมินสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่จุดมีเสถียรภาพ ซึ่งจะเป็นบวก และสนับสนุน SET Index ฟื้นตัวในช่วง พ.ย.-ธ.ค.

ศบค.เสนอต่ออายุการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึงสิ้น ต.ค. ขณะเดียวกันเห็นชอบอนุญาตให้ต่างชาติ 6 กลุ่ม เข้าประเทศ ได้แก่ 1) นักกีฬา 2) นักบินและลูกเรือการบินไทย 3) ผู้ถือวีซ่าประเภทอยู่ชั่วคราว 4) ผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวกลุ่ม Long stay 5) ผู้ถือบัตร APEC Card ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 6) ผู้ประสงค์จะพำนักในประเทศไทยระยะสั้น และยาว (60 วัน ขอต่อได้ 30 วัน) แม้จะเป็นปัจจัยบวกทางจิติทยา แต่ประเมินผลบวกต่อผลประกอบการบจ.ยังอยู่ในระดับที่จำกัด

การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ยังกดดันหุ้นเอเชียฟื้นด้อยกว่ายุโรปและสหรัฐฯ แม้หุ้นไทยและเอเชียยังมีโอกาสฟื้นต่อเนื่องหลังปรับลดลงต่อเนื่อง 1 เดือนที่ผ่านมา แต่การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ จากประเด็นความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ เนื่องมาจากการเลือกตั้งประธานาธิปดี 3 พ.ย.63 คาดจะส่งผลให้การฟื้นตัวด้อย (underperform) หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ การเก็งกำไรระยะสั้น เน้นหุ้นกลุ่มปลอดภัย (สื่อสาร ไฟฟ้า สาธารณูปโภค) และหุ้นที่ปรับลดลงมาเยอะ โดยหลีกเลี่ยงหุ้นที่ปรับขึ้นมากนับจากต้นปี และระวังความผันผวนระยะสั้น เนื่องจาก 29 ก.ย. เป็นวันซื้อขายสุดท้ายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และสัญญาอนุพันธ์หลายตัว

ฟื้นตัวระยะสั้น แนวต้าน 1255-1269 จากปัจจัยการเมืองทั้งในและต่างประเทศ และแรงขายระยะสั้นจากการสำรองเงินเพื่อจอซื้อหุ้น IPO ขนาดใหญ่เริ่มชะลอตัว ส่งผลบวกต่อการซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ในระยะสั้น

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองตลาดอาจมีโอกาสดีดตัวจากระดับต่ำ 1250+/- แต่ในระยะ 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า ยังอาจเผชิญความเสี่ยงทางลงอีก 50-70 จุด ในช่วงตลาดเปราะบางจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การเก็งกำไรเน้นเลือกซื้อรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร BBL*, PTTGC*, TIP*

แนวรับ 1,244-1,255 จุด / แนวต้าน : 1,269 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ECB ยันพร้อมผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น – ประธาน ECB ยันพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมระบุเศรษฐกิจสามชิกยูโรโซนทั้ง 19 ประเทศขณะนี้ยังคง “uncertain & incomplete”

EU ยันไม่ยกเลิกเจรจาการค้ากับอังกฤษ – รองประธานคณะกรรมการยุโรป (EC) ยืนยันไม่ยกเลิกการเจรจาการค้ากับอังกฤษ แม้ว่าอังกฤษจะผลักดันร่างกฎหมาย Internal Market Bill ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา

คลังคาด GDP ไตรมาส 3/63 ฟื้น qoq – สศค. คาดเศรษฐกิจไตรมาส 3/63 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ติดลบมากถึง -12.2% หลังเห็นการฟื้นตัวชัดเจนใน ก.ค.-ส.ค. 63 พร้อมเตรียมทบทวนประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือน ต.ค.

ธปท.เร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ – ธปท.หนุนเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างจริงจังก่อนเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

DIF – ราคาหุ้น DIF ร่วงแรง 4.17% รับความกังวล TRUE เทขายลดสัดส่วนหุ้นเพิ่ม

ประเด็นติดตาม: 30 ก.ย. – China manufacturing PMI เดือน ก.ย. / รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ส.ค. / EU CPI index เดือน ก.ย. / US GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)