ดาวโจนส์ร้อนแรงทะยาน410จุด

ดาวโจนส์ร้อนแรงทะยาน410จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันจันทร์ (28ก.ย.)พุ่งขึ้น 410 จุด ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนมองแง่ดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างไม่สะดุด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 410.1 จุดหรือ 1.51% ปิดที่ 27,584.06 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 53.14 จุด หรือ 1.61% ปิดที่ 3,351.6 จุดและดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 203.96 จุด หรือ 1.87% ปิดที่ 11,117.53 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคารสามารถดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มีการสั่งล็อกดาวน์สหรัฐเป็นรอบที่ 2

นักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่งสัญญาณว่า เธอและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต ในสัปดาห์นี้

แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะประสบความผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยได้รับผลกระทบจากการดีเบต ซึ่งหากทรัมป์มีคะแนนนำในการดีเบตดังกล่าว ก็จะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเชื้อเพลิงฟอสซิล และบริษัทผลิตอาวุธดีดตัวขึ้น และหากไบเดนมีคะแนนนำในการดีเบต ก็จะทำให้หุ้นในกลุ่มที่มีการค้าทั่วโลก และกลุ่มพลังงานหมุนเวียนปรับตัวขึ้น