โลโก้ 3 ยุค 'ทรท.-พปช.-พท.'
“โลโก้พรรค” หรือภาพเครื่องหมายพรรค มักจะมีความเชื่อทางโหราศาสตร์ว่า จะมีผลต่อ “ดวงการเมือง” ของพรรคนั้นๆ
ความเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทย ที่นอกจากการลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรค ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และลาออกจากหัวหน้าพรรค ของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ซึ่งส่งผลให้มีการปรับโครงสร้างพรรคใหม่แล้ว พรรคเพื่อไทยยังใช้สถานการณ์นี้ ปรับเปลี่ยนโลโก้พรรคใหม่ไปพร้อมกัน
น่าสนใจว่าการเปลี่ยนแปลง “โลโก้พรรค” หรือภาพเครื่องหมายพรรค มักจะมีความเชื่อทางโหราศาสตร์ว่า จะมีผลต่อ “ดวงการเมือง” ของพรรคนั้นๆ
กว่าจะมาเป็นพรรคเพื่อไทย ต้องย้อนกลับไปถึงดูพัฒนาการของพรรคการเมืองในเครือข่ายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ยืนหยัดอยู่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี และมีการเปลี่ยนหัวพรรคจากการถูกยุบต้นกำเนิด และต่อเนื่องมาแล้วถึง 2 พรรค
“สายพันธุ์” ของพรรคเพื่อไทย เริ่มต้นมาจากพรรคไทยรักไทย ชื่อย่อคือ “ท.ร.ท.” จดทะเบียนก่อตั้งพรรค เมื่อ 24 กรกฎาคม 2541 นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งติดต่อกัน 2 สมัย ก่อนจะถูกยุบพรรคในอีก 9 ปีต่อมา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 และกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิ์การเมือง เป็นเวลา 5 ปี
โลโก้ของพรรคไทยรักไทย ใช้ตัวอักษรที่เป็นตัวย่อชื่อพรรค “ท.ทหาร” ซึ่งมีการนำแถบสีของธงชาติไทยมาติดไว้ตรงกลางตัวอักษร และส่วนหัวของตัวอักษร “ท” จะเป็นลักษณะเหลี่ยมและแหลม ซึ่งแนวคิดการออกแบบโลโก้ไทยรักไทยในช่วงเริ่มต้น มาจากการให้ความสำคัญกับความเป็นไทยเป็นหลัก โลโก้ตัว ท.ทหาร ที่มีส่วนหัวแหลมคมทั้งสองตัว สื่อความหมายถึงการมุ่งไปข้างหน้า แล้วนำธงชาติไทยที่ออกแบบในรูปแบบที่สื่อว่ากำลังมุ่งไปข้างหน้า
ที่น่าสนใจคือ หัวตัวอักษร ท.ทหาร หัวตัด ที่ทักษิณชินวัตร ตีความว่าคล้ายกับเลขหนึ่งอารบิก จึงเลือกรูปแบบดังกล่าว และเน้นสามสี ซึ่งเป็นสีของ “ธงชาติ”
หลังจากที่พรรคไทยรักไทยล่มสลายลง บรรดานักการเมืองแถวสองของพรรค ก็ได้กลับมารวม “ดีเอ็นเอ” ก่อนจะก่อกำเนิดพรรคใหม่ขึ้นเป็น “พรรคพลังประชาชน” มีชื่อย่อพรรรคว่า “พปช.” ก่อนจะถูกยุบพรรคเมื่อ 2 ธันวาคม 2551 โดยโลโก้ของพรรค ใช้ตัวอักษร “พ.พาน”
สีน้ำเงิน โดยเส้นทแยงจากล่างซ้ายขึ้นบนขวาเป็นสีแดง และขาว ตัวอักษร “พ” ลักษณะหัวแหลมคล้ายกับไทยรักไทย ภายใต้รูปลักษณ์อักษร “พ” ที่มีสองสี คือสีน้ำเงินหมายถึงความรู้สึกสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ สีแดง หมายถึงความเป็นชาติไทย
แม้พรรคการเมือง “สายพันธุ์ทักษิณ” จะถูกยุบลงอีก ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่บทบาททางการเมืองก็ไม่ได้จบสิ้น เพราะนักการเมืองกลุ่มนี้ กลับมารวมตัวกันอีกในนาม “พรรคเพื่อไทย” ใช้ชื่อย่อว่า “พท.”
โลโก้ของพรรคเพื่อไทย แทบจะไม่แตกต่างจาก 2 พรรคก่อนหน้านี้ โดยใช้ตัวอักษร “พ.พาน” มี “ท.ทหาร” พ่วงมาด้วย และยังคงใช้แถบสีของธงชาติไทยมาประกอบไว้ตรงกลางตัวอักษรทั้งสอง โดยส่วนหัวของตัวอักษร “พท.” จะเป็นลักษณะหัวแหลมไม่ต่างกับโลโก้พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน
มีการอธิบายความหมายชื่อ พรรคเพื่อไทยว่า คือการรู้รักสามัคคีและรวมกันเป็นพลังอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ ส่วนตัวอักษรไทยพรรคเพื่อไทย หมายความว่าความมุ่งมั่นรวมเอาคนไทยจากทุกภาคส่วนมาระดมสติปัญญา กำหนดนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติไทยให้เจริญรุ่งเรือง มั่นคง ยั่งยืนตลอดไป
ภาพ:โลโก้พรรคเพื่อไทยแบบเก่า-ใหม่
ล่าสุด พรรคเพื่อไทยได้มีมติให้เปลี่ยนโลโก้ของพรรคใหม่ โดยปรับใช้รูปแบบตัวอักษร หรือฟอนต์ที่ชื่อว่า “อู่ทอง” ซึ่งตัวอักษร มีหัวกลมชัดเจนทั้งสองตัว และกำหนดให้ส่วนหางของตัวอักษรตรงเท่ากัน
การเปลี่ยนโลโก้หรือสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ ถือเป็นการช่วยเสริมเคล็ดหรือดวงชะตาให้พรรคการเมืองหรือไม่ ได้โทรศัพท์ สอบถาม ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล โหรชื่อดัง ถึงความหมายในการเปลี่ยนแปลงโลโก้พรรค ก็มีคำอธิบายว่า รูปทรงของตัวอักษรจะสามารถบ่งบอกได้ถึงธาตุต่างๆ เช่น รูปทรงแหลม จะหมายถึงธาตุไฟ รูปทรงกลม จะหมายถึงธาตุน้ำ
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบตัวอักษรย่อของพรรคเพื่อไทย จึงอาจเป็นไปได้ว่าทางพรรคต้องการสื่อว่าสามารถปรับตัวได้ทุกสถานะเหมือนกับน้ำ เพราะหากน้ำไปอยู่ในแก้ว ก็จะกลายรูปร่างเป็นแก้วน้ำ แต่หากเข้าไปอยู่ในขวด ก็จะกลายเป็นรูปขวด
ส่วนแถบสีแดง แสดงถึงธาตุไฟ และแถบสีน้ำเงิน แสดงถึงธาตุน้ำ แต่อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นการใช้สีสันเพื่อสร้างการจดจำให้กับคนทั่วไปได้ง่ายด้วย
ซินแส ภาณุวัฒน์ สะท้อมุมมองว่า การปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ส่วนหนึ่งอาจมาจากความต้องการลดกระแสการไม่ยอมรับจากสังคม หลังถูกมองว่า เป็นพรรคการเมืองที่เข้าร่วมกับกลุ่มการเมืองคนรุ่นใหม่ที่มีการแสดงออกต่อสถาบันเบื้องสูงในทางลบ จึงต้องการนำเอาตัวเองออกจากกระแสสังคมเหล่านี้