CKP - ถือ

CKP - ถือ

น้ำขึ้นให้รีบตัก

ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนปรับตัวดีขึ้นมากหนุนโดยสภาพอากาศแบบ La Niña ช่วยให้ XPCL ผลิตไฟฟ้าได้เต็มที่ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้เราคาดว่าจะมีฝนตกสูงกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่กันยายนถึงมกราคม คาดกำไรใน 3Q20F จะเพิ่มขึ้น 35 เท่าเป็น 1.2 พันล้านบาทโดยได้รับแรงหนุนจาก (1) กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของ XPCL และ (2) ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนที่สูงขึ้น คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมาย Bt5.25/sh โดยมี potential upside จากโครงการไฟฟ้าใหม่

 

คาดปริมาณน้ำเข้าเขื่อนจะทำระดับสูงสุดในเดือนสิงหาคม

ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น  223% mom หรือ 18% yoy เป็น 1,390 MCM ต่อเดือน ขณะที่ปริมาณน้ำผ่านโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) เพิ่มขึ้น 77% mom หรือ 31% yoy เป็น 5,337 CM/s ส่งผลให้โรงไฟฟ้า XPCL ผลิตไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้จากโมเดลของเราคาดว่า XPCL จะสร้างกำไรได้ราว 380 ล้านบาทต่อเดือนในกรณีที่ใช้กำลังการผลิตไฟฟ้า 100%

 

คาดว่าปริมาณฝนตกจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเดือนกันยายนถึงมกราคม

จากการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของปรากฏการณ์ ENSO พบว่าสภาพอากาศจะมีสถานะเป็น La Niña ตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนมกราคม และมีโอกาสราว 50% ที่จะเกิดรูปแบบสภาพอากาศ La Niña ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เราจึงคาดว่าปริมาณน้ำฝนจะในช่วงเวลาดังกล่าวจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน รวมถึงปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NN2 และ XPCL

 

คาดกำไรสุทธิราว Bt1.2b ใน 3Q20F

คาดผลประกอบการ 3Q20F จะเติบโตโดดเด่นถึง 35 เท่าโดยได้รับแรงหนุนจาก (1) กำลังการผลิตใหม่ (Equity capacity) ที่เพิ่มขึ้น 459 MW ของโรงไฟฟ้า XPCL และ (2) ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนที่สูงขึ้นจากสภาพอากาศแบบ La Niña

 

คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมาย Bt5.25/sh

ผลประกอบการช่วง 2H20 จะดีขึ้นหนุนโดยสภาพอากาศแบบ La Niña ในขณะเดียวกันเรามองราคาหุ้นที่ปรับขึ้นรับปัจจัยบวกแล้ว แต่ยังมี potential upside จากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำใหม่อีก Bt2.20/sh คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมาย Bt5.25/sh