ทอท.เปิดคืบหน้าสุวรรณภูมิระยะที่ 2 อาคารแซทเทิลไลท์แล้วเสร็จกว่า 95%

ทอท.เปิดคืบหน้าสุวรรณภูมิระยะที่ 2 อาคารแซทเทิลไลท์แล้วเสร็จกว่า 95%

ทอท.เผยคืบหน้าก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วเสร็จ 95.23% ทยอยรับมอบรถไฟฟ้าครบ 6 ขบวนภายในปีนี้ ก่อนทดสอบระบบพร้อมให้บริการ เม.ย.64

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตามที่ ทอท. ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคาร SAT-1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ของโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะ 2 ปัจจุบันมีภาพรวมแผนการดำเนินงานแล้วเสร็จประมาณ 95.23% โดยในส่วนของงานก่อสร้างโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว 100% แต่ยังคงเหลือการดำเนินการด้านงานสถาปัตยกรรม งานตกแต่งภายใน งานภูมิทัศน์ และติดตั้งระบบประกอบอาคารฯ สำหรับรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) มีความคืบหน้าประมาณ 71.43%

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ทอท.ได้รับรถไฟฟ้าฯ มาแล้ว 2 ขบวน (จากทั้งหมด 6 ขบวน) อยู่ระหว่างการทดสอบการใช้งานด้วยระบบไฟฟ้า (Static Test) ส่วนรถไฟฟ้าฯ อีก 4 ขบวนอยู่ระหว่างดำเนินการผลิต และจะทยอยส่งมอบในเดือน ต.ค.และ พ.ย. 2563 เมื่อรับรถไฟฟ้าฯ ครบทั้งหมดแล้ว จะเริ่มทดสอบระบบร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 เดือน คาดว่าจะพร้อมบริการได้ประมาณเดือน เม.ย. 2564

160127215327

ในส่วนของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋ามีความคืบหน้าดำเนินการประมาณ 75.51% อยู่ระหว่างติดตั้งระบบ Individual Carrier System (ICS) และ Make-up Carousels รวมทั้งเชื่อมต่อระบบ High Level Control โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากนี้จะเป็นการทดสอบระบบโดยใช้เวลาประมาณ 12 เดือน

สำหรับงานก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก ขณะนี้กำลังก่อสร้างโครงสร้างชั้นใต้ดินและพื้นชั้น 2, 3, 4 ของอาคารสำนักงาน และพื้นชั้น 6 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 และจะมีงานระบบประกอบอาคารของอาคารจอดรถ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือน เม.ย. 2564

160127218375

นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า เมื่อการดำเนินการด้านต่างๆ ของอาคาร SAT-1 แล้วเสร็จ หลังจากนั้น จะทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ (Operation Readiness and Airport Transfer : ORAT) โดยคาดว่าจะทำการทดสอบระบบการปฏิบัติงานต่างๆ ร่วมกันแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.2565

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะ 2 มีความล่าช้า มีสาเหตุมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนแรงงานลดลง ไม่สามารถนำเข้าวัสดุ/อุปกรณ์ที่ผลิตจากต่างประเทศเข้ามาใช้ในโครงการได้ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางมาให้คำปรึกษาดำเนินการติดตั้ง และร่วมทดสอบการทำงานร่วมกันของระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยได้

160127223344