Rebound

Rebound

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดช่วงการซื้อขาย ซึ่งอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก

โดยเราคาดว่าตลาดภายในประเทศยังคงกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมือง ประกอบกับความเสี่ยงจากการปรับใช้เกณฑ์ CELING/FLOOR กลับมาเหมือนเดิมที่ +/-30% ในวันที่ 1 ต.ค. ที่จะถึงนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,244.94 จุด -2.52 จุด -0.20% มูลค่าการซื้อขาย 4.6 หมื่นลบ. ต่างชาติ -870.69 ลบ. TFEX +15,136 สัญญา ตราสารหนี้ +416 ลบ. ขณะที่ทั้งสัปดาห์ดัชนี -43.45 จุด หรือ -3.37%

ปัจจัยบวก

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 358.52 จุด +1.34% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์ -1.8%!S&P -0.6%
+นางเพโลซีประธานสภาฯส่งสัญญาณว่ามีโอกาสบรรลุข้อตกลงออกมาตนการเยียวยาศก.รอบใหม่
+สนง.สถิติจีนเผยกาไรภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.เพิ่ม 19.1%YoY

ปัจจัยลบ

-ราคาน้ามันดิบ WTI ปิดลดลง 6 เซนต์ -0.2% ปิดที่ 40.25 ดอลลาร์/บาร์เรล วิตกแนวโน้มอุปสงค์น้ามันที่ลดลงหลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในรอบสัปดาห์นี้น้ามัน WTO -2.6% เบรนท์ -2.9%
-“โกลด์แมน แซคส์" ปรับลด GDP สหรัฐเหลือ 3% ใน Q4 จากเดิม 6% เหตุไร้แววมาตรการกระตุ้นศก.
-สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนต่ากว่าคาดในเดือนส.ค.
-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอน พรรคเพื่อไทยพรรคฝ่ายค้านมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่หลังหัวหน้าพรรคลาออกมีผลให้ต้องเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 โดยส.ส.พรรคเดโมแครตได้เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือวงเงิน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,230-1,258 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
• iPhone 12 เตรียมขายเดือนต.ค. (COM7 SPVI CPW SYNEX JMART)
• ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นหลังคลาย Lockdown (PSL RCL TTA)

หุ้นรายงานพิเศษ

LALIN         มาร์จินดี D/E yield สูง

•เน้นพัฒนาโครงการแนวราบในกทม.และปริมณฑล ปี 63 เปิดโครงการใหม่แล้ว 6 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 5 พันล้านบาท เหลือที่จะเปิดอีก 1 โครงการ ผู้บริหารตั้งเป้าเติบโตปีละราว 10% ปี 63 ตั้งเป้ายอดขาย presale 6,200 ล้านบาท เป้ารายได้ 5,250 ล้านบาท และยังคงเป้าตามเดิม

•2Q63 มีรายได้ 1,304 ล้านบาท +4%QoQ +50%YoY และมีกาไรสุทธิ 396 ล้านบาท +60%QoQ +164%YoY

•หากไม่รวมรายการพิเศษที่เป็นกาไรจากการเวนคืนที่ดิน 155.7 ล้านบาท จะมีกาไรปกติ 271 ล้านบาท 1H63

•มีกาไรสุทธิ 643 ล้านบาท +60%Yo อัตรากาไรขั้นต้น 39% อัตรากาไรสุทธิไม่รวมรายการพิเศษ 19% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 6.4%

•ฐานะการเงินแข็งแกร่งจากที่มี D/E 0.77 เท่า net D/E 0.47 เท่า ต่ากว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 1.5 เท่า

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อความสามารถในการทากาไรที่อยู่ในระดับสูงกว่า ขณะที่มี D/E ratio อยู่ในระดับต่า ประกอบกับการถือหุ้นระยะยาวได้รับ yield สูงน่าสนใจที่ 7% แนะนาถือรับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว

(+/-) GULF(Bloomberg Consensus 37.72 บาท) หุ้นเพิ่มทุน GULF จานวน 1,066.65 ล้านหุ้น เข้าเทรดวันนี้ “ยุพาพิน” ลั่นไตรมาส 4/63 เตรียมบุ๊กกาไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเยอรมนี (BKR2) ราว 400-500 ล้านบาท คาดปี 64 บุ๊กกาไรเพิ่ม 2,000 ล้านบาท ฟาก “สมิทธ์” ชี้มองหาโอกาสลงทุนต่างประเทศช่วงวิกฤติ ช้อปปิ้งของดีราคาถูก-คู่แข่งน้อย (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) HTC (Bloomberg Consensus - บาท) ลุ้นรายได้ครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หลังขยายการบริโภคในประเทศ เพิ่มช่องทางขายออนไลน์ เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปลายปี 63 ต่อเนื่องต้นปี 64 ส่วนปี 63 คาดรายได้ลดเหลือ 6,100 ล้านบาท หลังรับผลกระทบจากโควิด-19 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MCS (Bloomberg Consensus - บาท) MCS เล็งลดทุนจดทะเบียนหลังเลยกาหนดขายหุ้นที่ซื้อคืน โบรกมองช่วยหนุนโครงสร้างทางการเงินเข้มแข็งขึ้น และเพิ่มมูลค่าหุ้น 1.95 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปี 2564 เพิ่มเป็น 19.50 บาท ชูเป็นหุ้นสูงถึง 6.9% ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมูลงานเหล็กในญี่ปุ่นน้าหนักกว่า 8 หมื่นตัน เติม Backlog ในมือที่มีอยู่กว่า 1 แสนตัน คงเป้ารายได้ที่ 4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) THCOM(Bloomberg Consensus 5.28 บาท) THCOM รับผลบวก ครม.รับทราบแนวทางให้ กสท.โทรคมนาคม เป็นผู้รับมอบสินทรัพย์ดาวเทียมสัมปทาน โบรกเกอร์เชื่อว่ามีโอกาสเข้าบริหารสร้างรายได้ธุรกิจดาวเทียมสูง พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกาไรปี 2564-2565 แย้มมี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการในธุรกิจใหม่ที่ร่วมกับ PTTEP (ที่มา ทันหุ้น)


ปัจจัยจับตา

     ในประเทศ 

28 ก.ย. ธปท. จัดสัมมนาวิชาการประจาปี (BOT Symposium 2020)
30 ก.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

     ต่างประเทศ

30 ก.ย. 8.00 น. debate "ทรัมป์ VS ไบเดน"