จับตา! ‘สมพงษ์’ ส่อคัมแบ็คหัวหน้าพท.

จับตา! ‘สมพงษ์’ ส่อคัมแบ็คหัวหน้าพท.

จับตา “สมพงษ์” ส่อคัมแบ็คหัวหน้าเพื่อไทย 2 ส.ส.อีสาน ชื่อโผลชิงเลขาฯ

วันนี้(27 ก.ย.63) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงการลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากประธานยุทธศาสตร์พรรค  และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จนต้องนำไปสู่การเลือกตั้งกรรมการบริหาร(กก.บห.) ชุดใหม่ว่า ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคตระหนักและสัมผัสได้ถึงความเสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานหนักเพื่อพรรคตลอดมา

 
ทั้งนี้ รักษาการหัวหน้าพรรคได้เรียกประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อพิจารณากำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2563 โดยมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
 
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งไม่ว่าบุคคลใดจะได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรค เลือกให้มาบริหารพรรค เชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทยให้เดินหน้าต่อไปได้
 
“พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวล กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ จะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็ง มุ่งมั่นนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชน อย่างเต็มที่ต่อไป" นายอนุสรณ์ ระบุ


 


 

ด้านแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีแนวโน้มสูงที่จะยังเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เพราะมีความอาวุโสและได้รับการยอมรับทั้งจากส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่น
 
ในส่วนของเลขาธิการพรรคนั้น ส.ส.อีสาน ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของพรรคต่างพูดคุยตรงกันว่า เมื่อหัวหน้าเป็นคนเหนือแล้ว ตำแหน่งเลขาฯ ก็ควรกระจายมาให้ส.ส.อีสาน ที่มีจำนวนมาก ให้การประสานงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ให้พรรคเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะได้ทำงานให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ สำหรับรายชื่อที่มีการหยิบยกขึ้นมาตอนนี้คือ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เหตุผลการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย เพราะต้องการสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย กอบกู้วิกฤติศรัทธา ทำพรรคให้มีทิศทางฝากความหวัง ชิงกระแสประชาชน ประชาธิปไตย จากพรรคก้าวไกล กลับมาเป็นเสาหลักอย่างแข็งแกร่งเหนือใคร
 
หลังจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวทำให้ต้องแตกพรรค แกนนำส่วนหนึ่งออกไป และเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองทำให้ขาลอย หลายคนก็แยกตัวออกไป เพราะเข้ากับแกนนำซีกคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ได้ และต้องการจะกลับมา เพียงแต่โครงสร้างพรรคไม่เอื้ออำนวย