'โรม' รับร่างรธน.ฉบับไอลอว์ เสี่ยงถูกตีตก แนะทางออก'รื้อใหญ่'

'โรม' รับร่างรธน.ฉบับไอลอว์ เสี่ยงถูกตีตก แนะทางออก'รื้อใหญ่'

'โรม' รับร่างรธน.ฉบับไอลอว์ เสี่ยงถูกตีตก เหตุติดล็อก84เสียงส.ว. แนะทางออกต้อง 'ถอด-รื้อใหญ่'

ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จัดงานสัมมนา “รัฐสภากับการพัฒนาระบบกฎหมายอำนวยความยุติธรรมและพิทักษ์สิทธิมนุษยชน” โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวบรรยายพิเศษ “พรรคการเมืองกับการแก้รัฐธรรมนูญ” ตอนหนึ่งว่า หากดูจากที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่แก้ยาก แต่แก้ไม่ได้เลย

ทั้งแม้แม่จะมีการระบุว่า แก้รัฐธรรมนูญกุญแจมี 2 ดอกคือ ดอกที่ 1 อยู่ที่สภา และดอกที่ 2 เป็นกุญแจดอกใหญ่อยู่ที่ส.ว. แต่จากเหตุการณ์วันที่ 23-24 ก.ย. ทำให้เห็นว่ากุญแจทั้ง 2 ดอกอยู่ที่ส.ว.ทั้งสิ้น ส่วนส.ส.ที่ประชาชนเลือกมากลับไม่มีสิทธิแก้ ดังนั้นถ้าจะสั่งการให้กดปุ่มอะไรก็ต้องไปสื่อสารกับเจ้าของส.ว. แต่เมื่อเจ้าของส.ว.ไม่ค่อยเข้าสภา ก็ต้องให้ภาคประชาชนเป็นฝ่ายสื่อสารแทน

จนมีคนคิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะทำได้วิธีเดียวคือการรัฐประหาร ดังนั้น ส.ว.ต้องมีความชัดเจนว่าจะยอมจำนนหรือไม่ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญโดยประชาชนไม่น่าทำได้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ก.ย. มีภาคประชาชนนำโดยไอลอว์ลุกขึ้นมายื่นความต้องการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากรวบรวมรายชื่อได้แสนกว่ารายชื่อแล้ว เพราะไม่อาจฝากความหวังไว้ที่พรรคการเมืองบางพรรคหรือสภาได้ ส่วนการเสนอตั้งกมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นไปตามข้อบังคับของรัฐสภา แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าคือการซื้อเวลา แม้ข้อสรุปว่าจะรับหรือไม่รับในในเดือนพ.ย. แต่หากผลสรุปออกมาว่าส.ว. 84 คน ใน 250 คน โหวตไม่รับร่างฯ

ท้ายสุดก็จะทำให้ 6 ร่างตกในวาระที่ 1 ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถเสนอร่างที่มีเนื้อหาและหลักการเดียวกันได้ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยในสมัยประชุมหน้าที่สิ้นสุดในเดือนก.พ. 64 ดังนั้นถ้าต้องการเสนอร่างอีกครั้งก็ต้องรอไปถึงวันที่ 22 พ.ค. 64 ซึ่งจะเป็น 8 เดือน

ยอมรับว่า ตนกังวลใจ ในส่วนของร่างไอลอว์ หากไปประกบกับร่างส.ส.ซึ่งจะมีการพิจารณาในสมัยหน้าแล้วส.ว.ไม่เห็นด้วย แสนกว่าชื่อที่เสนอกฎหมายก็อาจจะตกไปด้วย ที่ทำมาก็จะเสียเปล่า เราต้องจับตาและดูการบรรจุร่างของประธานสภาจะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญจากนี้ คือ เราจะจัดการอย่างไรกับส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช. ดังนั้นการแก้วิกฤติทางการเมืองนี้คือต้องถอด รื้อ หรือทำลายคนบางกลุ่มที่บอกว่าดีกว่าพวกเราออกไปให้ได้