'ประกันสังคม' แจงยิบ กรณีลงทุน-ถือหุ้นใหญ่ 'ศรีพันวา' เผยกำไร 232 ล้านบาท
"ประกันสังคม" แจงยิบ กรณีลงทุน-ถือหุ้นใหญ่กองทรัสต์ "ศรีพันวา" (SRIPANWA) ชี้ลงทุนตั้งแต่ปี 2556 มูลค่า 505 ล้านบาท ปัจจุบันยอดเงินปันผลและกำไรรวม 232.62 ล้านบาท ย้ำมีเงินเพียงพอจ่ายบำนาญในระยะยาว
จากกระแสข่าวที่มีการสืบค้นและเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ กรณี "กองทุนประกันสังคม" ได้เข้าไปลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ศรีพันวา (กองทรัสต์ SRIPANWA) และพบว่าเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ด้วยจำนวนหุ้นราว 22.60% จึงเกิดข้อสงสัยและตั้งคำถามขึ้น หลังจากเกิดกระแส #แบนศรีพันวา เนื่องจากหนึ่งในผู้บริหารออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะรองโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวกรณีการถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SRIPANWA) ของสำนักงานประกันสังคมว่า ปัจจุบันการถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว มีมูลค่าลงทุนประมาณ 505 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมูลค่าตลาดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
สำหรับเงินปันผลที่ได้รับแล้ว ไม่ได้เพิ่งได้รับเมื่อปี 2560 ที่เป็นจ้อมูลการจ่ายเงินของกองทรัสต์ แต่สำนักงานประกันสังคมลงทุนมาตั้งแต่ปี 2556 ที่ตั้งแต่เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 2556-2559 ได้เงินปันผลเท่ากับ 77.57 ล้านบาท และเงินปันผลหลังจากแปลงสภาพเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SRIPANWA) ระหว่างปี 2560-2562 จำนวน 144.09 ล้านบาท
และในต้นปี 2563 ยังได้เงินปันผลมาอีก 7.13 ล้านบาท รวมเป็นเงินปันผลรวม 228.79 ล้านบาท นอกจากนี้ระหว่างการลงทุน สำนักงานประกันสังคมมีการขายได้รับกำไรประมาณ 3.83 ล้านบาท ทำให้สำนักงานประกันสังคมมีเงินสดรับในรูปแบบเงินปันผลและขายทำกำไรรวมทั้งสิ้น 232.62 ล้านบาท
ด้านรองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของสำนักงานประกันสังคม เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่หวังผลตอบแทนในรูปเงินปันผลระยะยาว และเป็นการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์อีกหนึ่งประเภท ซึ่งเป็นลักษณธการลงทุนของกองทุนบำนาญระดับโลกทั่วไป เพื่อสร้างรายได้ให้กับกองทุน และทำให้กองทุนมีเงินเพียงพอจ่ายบำราญในระยะยาว
โดยแต่ละการลงทุนของสำนักงานประกันสังคมมีผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์การลงทุน ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญให้คำแนะนำ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนของสำนักงานประกันสังคมอย่างเคร่งครัด จึงขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในการบริหารกองทุน และการสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนว่าจะเป็นไปอย่างมืออาชีพ และสร้างความมั่นคงให้แก่กองทุนประกันสังคม สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการดูแลและพัฒนาสิทธิประโยชน์กลับคืนสู่ผู้ประกันตนทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป
