“แอร์ไลน์” จ่อทวงซอฟท์โลน2.4หมื่นล้าน ต.ค.นี้

“แอร์ไลน์” จ่อทวงซอฟท์โลน2.4หมื่นล้าน ต.ค.นี้

แอร์ไลน์ ทวงซอฟท์โลน 2.4 หมื่นล้านบาท เหตุไร้คืบหน้า หลังนายกฯรับปากจะช่วย หวังยืมมาต่อลมหายใจช่วงไฮซีซั่น “ไทยแอร์เอเชีย” รุกเพิ่มจำนวนผู้โดยสารบริหารกระแสเงินสด คืนรัง “สุวรรณภูมิ” ในรอบ 8 ปี เปิดบิน 4 เส้นทางแรก

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือภาคธุรกิจสายการบินของประเทศไทย หลังคณะผู้บริหารระดับสูงของ 7 สายการบิน ได้แก่ ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยเวียตเจ็ท นกแอร์ และบางกอกแอร์เวย์ส ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา และทางนายกฯรับปากว่าจะช่วย

“ทางสายการบินจำเป็นต้องทวงถามความคืบหน้ากับรัฐบาลอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ เพราะถ้าได้ซอฟท์โลนก้อนแรกทันเดือนดังกล่าว จะได้นำมาขยายกำลังการให้บริการอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น เพราะซอฟท์โลนจะช่วยให้สายการบินหายใจคล่องขึ้นในช่วงที่ยังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้”

นายสันติสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการบริหารสภาพคล่องของไทยแอร์เอเชีย เมื่อสิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีกระแสเงินสดกว่า 3,000 ล้านบาท มุ่งเดินหน้าลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด ด้วยการเจรจากับคู่ค้าเพื่อเลื่อนการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกไปก่อน ขณะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้ให้ส่วนลดค่าบริการต่างๆ แก่สายการบิน นอกจากนี้ไทยแอร์เอเชียได้เปิดให้พนักงานลาหยุดแบบไม่ได้รับค่าจ้าง (Leave without Pay)ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย 30-40%

ด้านการเพิ่มรายได้และจำนวนผู้โดยสาร วานนี้ (25 ก.ย.) ไทยแอร์เอเชียเริ่มให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเดิม 4 เส้นทางแรกสู่เชียงใหม่ 5 เที่ยวบินต่อวัน ภูเก็ต 3 เที่ยวบินต่อวัน กระบี่ 2 เที่ยวบินต่อวัน และสุราษฎร์ธานี 2 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยเครื่องบิน 4 ลำ และเตรียมเพิ่มเป็น 5 ลำภายในสิ้นปีนี้

คาดตลอดเดือน ต.ค.นี้จะมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) เส้นทางบินจากสุวรรณภูมิตามเป้า 80%หลังมียอดจองที่นั่งล่วงหน้าแล้ว 50%และเตรียมเพิ่มเส้นทางบินใหม่จากสุวรรณภูมิอีก 2-3 เส้นทาง โดยขณะนี้รอทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุมัติสลอตบินของตารางการบินฤดูหนาวที่จะถึงนี้

ส่วนภาพรวมเส้นทางบินภายในประเทศของไทยแอร์เอเชีย มีปริมาณที่นั่งโดยสารกลับมาให้บริการแล้ว 90%เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 ด้วยเครื่องบิน 37 ลำ จากฝูงบินของไทยแอร์เอเชียที่มีอยู่ทั้งหมด 62 ลำ ปัจจุบันเส้นทางในประเทศมีโหลดแฟคเตอร์เฉลี่ย 70-80%

คาดด้วยว่าจะเห็นกระแสการเดินทางที่ดีขึ้นในช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 4 นี้ มียอดผู้โดยสารเฉลี่ยอีกเดือนละ 1 ล้านคน เมื่อรวมกับยอดผู้โดยสารปัจจุบันช่วง 9 เดือนแรกซึ่งอยู่ที่ 5-6 ล้านคน ทำให้ตลอดปี 2563 ไทยแอร์เอเชียจะมีจำนวนผู้โดยสารรวม 9.3 ล้านคนตามเป้าหมายล่าสุด หลังต้องปรับเป้ามาตลอดนับตั้งแต่เจอวิกฤติโควิดซึ่งเดิมตั้งเป้าที่ประมาณ 22 ล้านคน ใกล้เคียงกับยอดปีที่แล้ว

ซีอีโอไทยแอร์เอเชีย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ได้เสนอขอให้รัฐบาลปรับเพิ่มเงื่อนไขการใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ให้รัฐช่วยจ่ายตั้งแต่ขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน เหมือนกับขั้นตองการจองโรงแรมที่พัก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนไทย ไม่ต้องทำเรื่องขอคืนเงินค่าตั๋วเองในภายหลัง

“เพราะถ้าเงื่อนไขยาก คนก็จะเข้าร่วมน้อย ประกอบกับปัจจุบันมีจำนวนสิทธิ์ตั๋วเครื่องบินถูกใช้ไปเพียง 4.5 หมื่นสิทธิ์เท่านั้น จากโควตา 2 ล้านสิทธิ์ หากทำได้ก็จะช่วยกระตุ้นให้คนไทยออกท่องเที่ยวมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เพิ่มสิทธิ์เงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้ว จากเดิมสูงสุด 1,000 บาทต่อที่นั่ง เป็น 2,000 บาทต่อที่นั่ง”

ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดูแนวโน้มไตรมาส 4 ปีนี้แล้วยังคงลำบาก โดยรัฐบาลเตรียมการเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างจำกัด เริ่มด้วยแนวทางการออกวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือSpecial Tourist VISA(STV)ซึ่งกำหนดให้เดินทางเข้าไทยแค่ 300 คนต่อสัปดาห์ แม้จำนวนยังน้อย แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่น่ายินดี แสดงให้คนไทยเห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นกลับมา