ระยะสั้นคาดฟื้นตัวจากระดับต่ำ 1250 จุด แต่ยังมีความเสี่ยงทางลงในช่วง 1 เดือนหน้า

ระยะสั้นคาดฟื้นตัวจากระดับต่ำ 1250 จุด แต่ยังมีความเสี่ยงทางลงในช่วง 1 เดือนหน้า

คาดมีหลายปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนปรับพอร์ต

จนกดดันภาพการลงทุนในระยะสั้นทั้งภายนอกและภายใน ได้แก่ 1) รับมือความไม่แน่นอนทางนโยบายของการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ 2) รับมือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากสถานการณ์โควิด และสถานการณ์ระบาดระลอกสอง รวมทั้งการเข้าสู่หน้าฝนและหน้าหนาวที่ยิ่งยากต่อการควบคุมโรค 3) แรงกดดันจากการขายเพื่อสำรองสภาพคล่องเตรียมจองซื้อ IPO ขนาดใหญ่ ในประเทศอย่าง SCGP และในระดับภูมิภาค Ant Financial ซึ่งคาดว่าจะระดมทุน 35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่กว่า Saudi Aramco ที่ระดมทุนปีก่อนที่ 29.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)

หุ้นไฟฟ้าลงหนัก คาดกังวลการหมดระยะเวลาห้ามขายของ GULF-BGRIM ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ทำการขาย big lot หุ้น GULF และ BGRIM เมื่อ 22 ก.ค.ซึ่งในข้อกำหนดของการจำหน่าย (placement) รอบดังกล่าว รวมถึงการระบุจะไม่มีการขายเพิ่มเติมอีกในระยะเวลา 60 วัน ซึ่งครบกำหนดเมื่อ 23 ก.ย. ซึ่งจะทำให้ ADB สามารถขายหุ้นได้อีกครั้ง 24 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเราคาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกังวลความเสี่ยงจากการลดน้ำหนักเพิ่มเติม

การเมืองในประเทศเข้าสู่ภาวะตึงเครียดมากขึ้น หลังรัฐสภามีมติให้ตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญก่อนพิจารณารับหลักการญัติข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวถูกมองเป็นการซื้อเวลา และทำให้หากมีการลงมติไม่รับรองการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยการประชุมหน้า จะทำให้ไม่สามารถยื่นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญได้อีกในช่วงสมัยประชุมดังกล่าว (ประมาณ 9 เดือน) ซึ่งผลการลงมติดังกล่าว ทำให้หนึ่งในแกนนำการชุมนุมทนายอานนท์ นำภา ประกาศเตรียมสู้แบบ “ม้วนเดียวจบ” ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การชุมนุมเกิดการลงถนน และเกิดความรุนแรงหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ตามมา

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ตลาดจะลงมาแล้ว 50-100 จุด จากที่เราคาดเมื่อ 3-4 สัปดาห์ก่อน และเรามองตลาดอาจมีโอกาสดีดตัวจากระดับต่ำ 1250+/- แต่ SET Inded ยังอาจเผชิญความเสี่ยงทางลงอีก 50-70 จุด ในช่วงตลาดเปราะบางจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกในช่วง ก.ย.-ต.ค. การเก็งกำไรเน้นเลือกซื้อรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร STGT*, SUPER*, ZIGA*

แนวรับ 1,241 จุด / แนวต้าน : 1,255-1,269 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเตรียมโยกเงินกองทุนโควิดเข้าหนุนภาคธุรกิจและครัวเรือน ประธานเฟด และ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ หนุนโยกเงินส่วนที่เหลือในกองทุนโควิด-19 ราว แสนล้านดอลลาร์ เข้าชาวยเหลือภาคธุรกิจและครัวเรือนของสหรัฐ

สหรัฐเตรียมพิจารณาผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสภาสัปดาห์หน้า พรรคเดโมแครตของสหรัฐ อยู่ระหว่างร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน $2.4 ล้านล้าน เตรียมนำร่างฯใหม่เข้สภาสัปดาห์หน้า

สภามีมติ 432-255 ยื้อแก้ รธน. สภามีมติ 432 ต่อ 255 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ให้ตั้ง กมธ.ศึกษาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ญัตติ โดยใช้เวลา 1 เดือน หลังจากนั้นจึงให้เสนอเข้าสู่การพิจารณาใหม่

อสังหาฯยังเหนื่อยหลังยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 50% – นายกสมาคมอสังหาฯชี้โควิดลากยาว เสี่ยงอสังหาฯไปต่อไม่ไหวหลังยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง 50% หวั่นหมดระยะพักชำระหนี้ แนะรัฐลดภาษีโอนซื้อขายกิจการ

ประเด็นติดตาม: 30 ก.ย. – China manufacturing PMI เดือน ก.ย. / รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ส.ค. / EU CPI index เดือน ก.ย. / US GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)