ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นขานรับยอดขายบ้านพุ่งสูงสุด 14 ปี

ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นขานรับยอดขายบ้านพุ่งสูงสุด 14 ปี

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (24ก.ย.)พลิกสู่แดนบวก หลังจากที่สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งสูงสุด 14 ปีในเดือนส.ค. ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวขึ้นหลังร่วงลงในช่วงแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 52.31 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 26,815.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 3,246.59 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 39.28 จุดหรือ 0.37% ปิดที่ 10,672.27 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.8% สู่ระดับ 1.011 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2549 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่ายอดขายจะดิ่งลง 1% สู่ระดับ 895,000 ยูนิต

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับเพิ่มยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.ค.สู่ระดับ 965,000 ยูนิต จากเดิมรายงานที่ระดับ 901,000 ยูนิต

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในการซื้อขายช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 870,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 840,000 ราย และสูงกว่าระดับ 866,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าคาดดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก

การที่ประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาว่า การส่งมอบอำนาจบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ขณะเดียวกัน ตลาดยังมีความวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงมีความเห็นต่างเกี่ยวกับขนาดและขอบข่ายของมาตรการดังกล่าว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุลงแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องการลดวงเงินช่วยเหลือคนว่างงานลงสู่ระดับ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการรักษาวงเงินดังกล่าวที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์