อ่อนตัว

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1275 / 1280 จุด แนวรับ 1255 / 1250 จุด หุ้น Small-Mid Cap ยังคงให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ อิงแรงขายที่ปรับสูงขึ้นของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศ แนะนำ ซื้อเก็งำาไร RBF PRM PSL ไฮไลท์อยู่ที่การรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 1 ซึ่งอาจไม่ตรงกับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) การดิ่งลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี พลังงาน เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้

      2) รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ก.ย. ส่วนใหญ่ปิดชะลอลง (- หุ้นอิงเศรษฐกิจโลก)

      3) สภาฯ ตัดสินเลือกรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 1 วันนี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงจากการชุมนุมนอกสภา หากไม่เป็นไปตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม (-ตลาดหุ้นไทย)

      4) ผลประชุมกนง. ปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้นเป็น -7.8% จากเดิม -8.1% (+กลุ่มอิงส่งออกและกลุ่มปันผลสูง)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

Japan-รายงานประชุม BOJ ที่ผ่านมา / Germany-Ifo Expectation เดือน ก.ย. คาด 98 (vs เดือน ส.ค. 97.5) / USA-Weekly Initial Jobless Claims คาด 843k (vs สัปดาห์ก่อน 860k), New Home Sales เดือน ส.ค. คาด -1% MoM (Vs เดือน ก.ค. 13.9%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1260-1272 จุด ก่อนมาปิดที่ 1264.01 จุด -3.62 จุด วอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 5.1 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.6% พลังงานและสาธารณูปโภค -1.5% ส่วนกลุ่มนำขึ้น คือ ธุรกิจการเกษตร +2.47% เงินทุนและหลักทรัพย์ +1.8% หุ้นบวก >4% STGT TQM ICHI DOHOME RBF PSL NOBLE YGG PRM AEONTS AUCT RCL VCOM NWR หุ้นลบ > 4% PTTGC SICT SPALI ARIN

- ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งแรง DJIA -1.92% S&P500 -2.37% Nasdaq -3.02% นำลงโดยกลุ่มพลังงาน -4.5% เทคโนโลยี -3.2% Materials -2.93% หลังรายงาน US-EU-UK Composite Output Index เดือน ก.ย. ร่วงลงเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. และประธานเฟดเรียกร้องให้สภาสหรัฐฯ ออกมาตรการการคลังเพิ่ม สะท้อนเศรษฐกิจ 4Q20E อ่อนแอลง จากผลกระทบ COVID-19 และเลือกตั้งสหรัฐฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก DAX +0.39% CAC40 +0.62% FTSE +1.2% จากคาดหวังว่ารัฐบาลและธนาคารกลางต่าง ๆ เตรียมออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

+/- น้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ทองร่วงต่อ: ราคาน้ำมันดิบโลกขยับขึ้นเล็กน้อย Brent +5 เซนต์ ปิดที่ USD41.77/บาร์เรล WTI +13 เซนต์ ปิดที่ USD39.93/บาร์เรล หลังจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับ API ที่รายงานสต็อกน้ำมันดิบสูงขึ้น 6.9 แสนบาร์เรล ส่วนทองคำดิ่งต่อ -USD39.2 -2.05% ปิดที่ USD1,868.40/ออนซ์ จากการแข็งค่าต่อเนื่องของค่าเงิน USD

ประเด็นสำคัญ

- รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน ก.ย.: ปิดคละ (Vs เดือน ก.ค.-ส.ค. ปิดบวก) โดย EU USA Australia รายงานดีขึ้น แต่ Japan UK แย่ลง สะท้อนเศรษฐกิจโลก ฟื้นตัวอย่างจำกัด หลังจากพุ่งขึ้นแรงต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

+ ดุลการค้าไทย: กระทรวงพาณิชย์ รายงานดุลการค้าเดือน ส.ค. สูงกว่าคาดการณ์ โดยเกินดุล USD4,349mn (Vs คาด USD3.45bn และเดือน ก.ค. USD3.34bn) เป็นผลจากส่งออก -7.94% YoY ดีกว่าเมื่อเทียบกับคาดการณ์ที่ -13% (เดือน ก.ค. -11.37% YoY ) และนาเข้า -19.68% YoY ใกล้เคียงกับคาดการณ์ที่ -19.3% (Vs เดือน ก.ค. -26.38% YoY) ส่วนดุลการค้าไทยช่วง 8M20 เกินดุล USD18,393mn เป็นผลจากส่งออก -7.75% และนำเข้า -15.31% YoY

+ ผลประชุมกนง: มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.5% และปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็น -7.8% (จากเดิม -8.1%) แต่ปรับลดปี 2021E เป็น 3.6% (จากเดิม 5%) เนื่องจากภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าคาด

- การเมืองไทย: สภาร่วมพิจารณาญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 6 ญัตติวันนี้ โดยจะอภิปรายจนถึงเวลา 18:00 น. ก่อนลงมติด้วยวาจาว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นรายฉบับ ภายในเที่ยงคืนวันที่ 24 ก.ย.

+ Vaccine: J&J เผยเป็นบริษัทที่ 4 ที่ได้เริ่มทาทารทดลองวัคซีนฯ ต้าน COVID-19 เฟส 3 แล้ว โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ 60,000 ราย ในสถานที่กว่า 200 แห่ง ในสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ

+ Opportunity Day วันนี้: ECF TPAC YGG SMART วันศุกร์ PF HTC JASIF

– US-China: ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องในที่ประชุมสหประชาชาติให้จีนรับผิดชอบต่อการปล่อย COVID-19 ไปทั่วโลก ขณะที่จีนตอบโต้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์โกหก และใช้เวทีสหประชาชาติยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: WICE KCE SAT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: RBF PRM PSL

Derivatives: ทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ต้นทุน 812-813 จุด เพื่อทำกำไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)