ผบช.น. เชื่อชุมนุมหน้ารัฐสภาเรียบร้อยดี ยันเคลียร์ 'ม็อบ' แล้ว

ผบช.น. เชื่อชุมนุมหน้ารัฐสภาเรียบร้อยดี ยันเคลียร์ 'ม็อบ' แล้ว

"พล.ต.ท.ภัคพงศ์" เชื่อการชุมนุมหน้ารัฐสภาจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เตรียมกำลังดูแล 5 กองร้อย ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวง อยู่ระหว่างพิจารณาความผิด

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 63 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการชุมนุมในวันนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากผู้ชุมนุมมีการประสานขออนุญาตและทำข้อตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่บุกเข้าไป หรือขัดขวางการประชุม และไม่ว่าผลการประชุมวันนี้จะเป็นอย่างไร ก็จะยุติการชุมนุมตามกรอบเวลาที่แจ้งไว้

ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยของตำรวจ ได้จัดกำลังทั้งหมดประมาณ 5 กองร้อย ดูแลภาพรวมความเรียบร้อยทั้งหมด ซึ่งรัฐสภาเป็นผู้อนุญาตให้สังเกตการณ์ได้ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้า ซึ่งหากจุดที่มีการเตรียมไว้เป็นสถานที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ก่อสร้างเสร็จสิ้น ก็เชื่อว่าการจัดกิจกรรมชุมนุมจะได้รับความสะดวกกว่านี้

ส่วนการดำเนินคดีในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวนกลางขึ้นมาทำการสอบสวนคดีนี้ ดังนั้นเรื่องการดำเนินคดี ตนจึงอยู่ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนไปก่อน ซึ่งการดำเนินคดีจนถึงขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนที่มีการแจ้งความไว้ตาม สน.ต่าง ๆ ให้ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม เป็นเป็นเพียงการส่งพยานหลักฐานให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดี หากพิจารณาแล้วเป็นเหตุการณ์เดียวกัน มีความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกัน ก็จะนำมารวมไว้สำนวนคดีเดียวกัน โดยยืนยันว่าเรื่องความผิดตามมาตรา 112 แม้กฎหมายจะมีผลบังคับใช้อยู่ แต่ตามนโยบายแล้วจะไม่มีการแจ้งดำเนินคดีในข้อหานี้ ส่วนผู้ที่เข้าข่ายจะถูกดำเนินคดี ยังไม่สรุปว่าจะมีแค่ 16 คนหรือไม่ และไม่มั่นใจว่าสัปดาห์หน้าจะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้หรือไม่

ส่วนเรื่องการเก็บรักษาหมุดคณะราษฎร์ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย เพราะเป็นหลักฐานทางคดี ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการแชร์แบบแม่พิมพ์ หรือจัดทำเป็นเทคโนโลยีภาพเสมือน 3 มิติ แจกจ่ายให้ประชาชนเก็บไว้ ต้องพิจารณาก่อนว่ามีความเกี่ยวข้องกับความผิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ จึงจะบอกได้ว่าต้องมีการดำเนินคดีในเรื่องนี้หรือไม่ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการยึดเอกสารที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมนำไปแจกจ่ายในการชุมนุมดังกล่าว ยืนยันว่าผู้ที่ยึดไปเป็นตำรวจภูธรภาค 1 เนื่องจากเป็นหนึ่งในพยานหลักฐานที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคยนำไปแจกจ่ายในการชุมนุมทางการเมืองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต โดยตำรวจนครบาลไม่ได้ยึดหรืออายัดเอกสารดังกล่าวไว้แต่อย่างใด

สำหรับการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุมหลายจุดทั่วประเทศ ยังไม่มีนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้รวมสำนวนความผิดมาสอบสวนจากส่วนกลาง ยังคงเป็นการสอบสวนไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ และการพิจารณาดำเนินคดี จะพิจารณาเป็นรายบุคคลตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่การสุ่มดำเนินคดีใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรม