แถลงการณ์เฟด + โควิด หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อ เน้นลงทุนรายตัว

แถลงการณ์เฟด + โควิด หนุนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อ เน้นลงทุนรายตัว

กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50%

พร้อมปรับเป้า GDP คาดการณ์ปีนี้ขึ้นเป็น -7.8% จากเดิมที่ -8.1% หลังผลกระทบจากการปิดเมืองน้อยกว่าที่ประเมินไว้. แต่ปรับลดเป้า GDP คาดการณ์ปี 64 ลงเหลือ +3.6% จาก +5% จากสถานการณ์โควิด-19 ในระยะกลาง-ยาว ที่ยังคงมีความไม่แน่อนสูงหลังเกิดเหตุการแพร่ระบาดระลอกสองในหลายกลุ่มประเทศซึ่งอาจเป็นตัวฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาดผ่านการลดลงของอุปสงค์ภายนอกและปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติ  

การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ส่งผลให้กลุ่มตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงไทยเคลื่อนไหวด้อยกว่าหุ้นสหรัฐ. เรายังคงมองตลาดผันผวนสูงก่อนถึงวันเลือกตั้งสหรัฐในเดือน พ.ย. ขณะที่ การฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกล่าสุดยังไม่ช่วยให้ภาพทางเทคนิคกลับมาเป็นบวก สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET index) เรายังคงมองกรอบการฟื้นตัวจำกัดจาก 1) ความกังวลผลประกอบการไตรมาส 3/63 กลุ่มธนาคาร, 2) การท่องเที่ยวที่อาจฟื้นช้ากว่าคาดจากภาวะโควิด-19 ในยุโรป, 3) ความขัดแย้งการเมืองภายในประเทศที่อาจยืดเยื้อ, และ 4) ตลท.ไม่ต่อมาตรการ short-sell

อย่างไรก็ตาม ในมิติของอัตราดอกเบี้ยที่คาดต่ำนานเชื่อว่าจะยังเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด downside ตลาด ทั้งนี้ ด้วยภาพรวมตลาดที่ผันผวนสูงรวมถึงความกังวล second wave เป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นกลุ่ม cyclical plays เคลื่อนไหวแย่กว่าตลาด ขณะที่ เราแนะนำเพิ่มน้ำหนักหุ้นในกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง-ผลการดำเนินงานมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังสนใจหุ้นกลุ่มโรงแรม (บางตัว) ที่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัดส่วนที่น้อยกว่า เช่น ERW CENTEL กรณีที่ไม่เกิด second-wave ในประเทศไทย

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ กรอบฟื้นตัวจำกัด ดัชนีมีแนวโน้มลงต่อที่ 1,250 จุด การเก็งกำไรเน้นเลือกซื้อรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ GULF เก็งกำไร TASCO*, ZIGA*

แนวรับ 1,255-1,200 จุด / แนวต้าน : 1,275-1,281 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

เฟดย้ำสภาต้องใช้จ่ายเพิ่มเติม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดย้ำสภาคองเกรสควรใช้จ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้เฟดบรรลุเป้าการจ้างงานและเงินเฟ้อเร็วขึ้น

ญี่ปุ่นผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง โดยจะเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาพำนักที่ญี่ปุ่นได้เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน เริ่มเร็วสุด 1 ต.ค. นี้

ส่งออกไทยหดตัวน้อยกว่าคาด สนค.รายงานตัวเลขส่งออก เดือน ส.ค. ปรับลดลง -7.94% จากตลาดคาดหดตัว -13% ยอดนำเข้าหดตัว -19.68% ขณะที่ ภาพรวมช่วง 8M63 ส่งออกหดตัว -7.75% นำเข้าหดตัว -15.31% ส่งผลให้เกินดุลการค้า $18.393 พันล้าน

กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% ตามตลาดคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2563 จากเดิมที่ -8.1% เหลือ -7.8% ขณะที่ปี 2564 เหลือ +3.6% จากเดิมที่ +5% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าเป็นสำคัญ

 

ประเด็นติดตาม: 24 ก.ย. – US initial jobless claims, 30 ก.ย. – China manufacturing PMI เดือน ก.ย. / รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ส.ค. / EU CPI index เดือน ก.ย. / US GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)