ไทม์ชู‘นายแพทย์เฟาซี-ทรัมป์-สี จิ้นผิง’บุคคลทรงอิทธิพลโลกปีนี้

ไทม์ชู‘นายแพทย์เฟาซี-ทรัมป์-สี จิ้นผิง’บุคคลทรงอิทธิพลโลกปีนี้

ไทม์ชู‘นายแพทย์เฟาซี-ทรัมป์-สี จิ้นผิง’บุคคลทรงอิทธิพลโลกปีนี้ ท่ามกลางปัญหาขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจชลอตัวและปัญหาขัดแย้งทางการค้าในจุดต่างๆทั่วโลก

นิตยสารไทม์ เผยรายงานจัดอันดับ100 ผู้ทรงอิทธิพลโลกเมื่อวันอังคาร(22ก.ย.)โดยยกย่องให้นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐ เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลทรงอิทธิพลของโลกในปีนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งมักจะมีความคิดเห็นต่างกับนายแพทย์เฟาซี ก็ติดโผ ผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปีนี้ด้วยเช่นกัน

นายแพทย์เฟาซีมักขัดแย้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ ในเรื่องการรับมือและการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด เขากล่าวว่า สหรัฐจะกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนมีโรคระบาดในปีหน้าหรืออาจจะถึงปลายปีหน้า และโรคระบาดอาจกลับมารุนแรงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ซึ่งสวนทางกับท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระบุว่า สหรัฐจะกลับสู่ภาวะปกติในเร็ววัน

รายงานจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในปีนี้ ให้ทรัมป์ติดอยู่ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลของไทม์ด้วยเช่นกัน โดยไบรอัน เบนเน็ตต์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบขาวของนิตยสารไทม์ ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ให้ความสำคัญกับความรุนแรงของโรคโควิด-19 แต่เนิ่นๆ ไม่ยอมใส่หน้ากากหน้ามัยอยู่หลายเดือน และกดดันให้นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลเปลี่ยนคำแนะนำต่อสาธารณชน ในขณะที่ไวรัสชนิดนี้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปจำนวนกว่าสองแสนคน

ส่วนคู่ปรับตลอดกาลของทรัมป์ อย่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนก็ติดโผผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปีนี้ ด้วยผลงานการจัดการกับปัญหาทุจริตในประเทศอย่างเด็ดขาด ทั้งยังสร้างอิทธิพลด้านการต่างประเทศและด้านเศรษฐกิจทั่วโลก