'เขตรัฐ' ยื่น 'ปธ.สภา' ไม่เห็นด้วยแก้ รธน. ชี้เป็นพรรรคร่วมรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องเคารพมติวิป

'เขตรัฐ' ยื่น 'ปธ.สภา' ไม่เห็นด้วยแก้ รธน. ชี้เป็นพรรรคร่วมรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องเคารพมติวิป

พรรครวมพลังประชาชาติไทย ยื่น จุดยืนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน.ต่อประธานรัฐสภา ด้าน "เขตรัฐ" ขอเพิ่มเวลาอภิปรายให้ รปช. ชี้ถึงเป็นพรรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่จำเป็นต้องเคารพมติวิป

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 63 นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะโฆษกพรรค ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เกี่ยวกับจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า ซึ่งวันนี้ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของฝ่ายเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จากที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยได้เคยมีมติว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เป็นฉบับที่ดีฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นการถอนบทเรียนจากความขัดแย้งร่วมกว่า 10 ปี และรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บทของประเทศ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน วันนี้ถึงแม้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้ไม่ใช่การพิจารณางบประมาณแผ่นดินที่จำเป็นต้องเคารพมติวิปรัฐบาล และมองว่าการจัดสรรเวลาในการอภิปรายนั้นต้องจัดสรรตามหลักการระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข เพราะถึงแม้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมี ส.ส.เพียง 5 เสียง แต่ก็ควรได้รับการจัดสรรเวลาเท่าๆกับพรรคที่เห็นด้วยกับการแก้ไข

นายเขตรัฐ ยังถึงข้อสังเกตเรื่องความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ ม.77 และ ม.78 ซึ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้มีการศึกษาร่างแก้ไขทั้ง 6 ที่จะมีการแก้ไข และมีความคิดเห็นว่าโดยนัยยะของ ม.77 วรรค 2 มีใจความสำคัญ 3 ข้อ คือ ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้านและเป็นระบบ ก่อนการตรากฎหมาย การเปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นต่อประชาชน และกานำความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบมาประกอบการพิจารณาในการตรากฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นฉบับที่มีประชาชน จำนวน 16.8 ล้านคน ร่วมกันลงมติรับร่าง โดยหากเปรียบเทียบเป็นจำสวน ส.ส. ในการเลือกตั้งตามสัดส่วนแล้ว เทียบได้กับ ส.ส.ประมาณ 240 กว่าคน ดังนั้นขอให้ติดตามการอภิปรายของ ส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ต้องการแสดงความคิดเห็น มุมมอง และแง่คิด และขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนได้มอบหมายให้ในสภาฯทรงเกียรติแห่งนี้