'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ส่งทนายฟ้องนายกฯ โอนย้ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' ส่งทนายฟ้องนายกฯ โอนย้ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่งทนายฟ้องนายกฯ โอนย้ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยกกรณี 90 ข้าราชการเทียบ ไร้ความผิดโอนกลับสังกัดเดิม ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ลั่นคำสั่งย้ายตรวจสอบหมดแล้ว ขณะที่ กอ. นัดถก “คดีบอส” 10 ต.ค. ก่อนสรุปความผิดอัยการ

วานนี้ (23ก.ย.) ที่ศาลปกครองกลาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสิทธิ งามลำยวง ทนายความ เดินทางไปยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว แต่กลับยังไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนความผิด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และไม่มีการสอบสวนทั้งจากหน่วยงานที่ตรวจสอบทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตามกระบวนการที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าตัวก็ไม่ได้สมัครใจที่จะโอนย้ายไปในตำแหน่งดังกล่าว

นายสิทธิ ระบุว่า ที่ผ่านมาพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่เคยถูกระบุว่า มีความผิดอะไร ไม่มีการตั้งกรรมการสอบ แม้แต่ตัวของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยังระบุว่า มีความผิดอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็มีสิทธิกลับต้นสังกัดได้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการออกคำสั่งแก้ไข คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ผ่านมามีข้าราชการกว่า 90 คน ที่ถูกย้ายโอนมาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปัจจุบันเกินกว่า 80 คน ทยอยกลับต้นสังกัดแล้วหลังสอบสวนไม่มีความผิด และอีกไม่กี่คนกำลังจะเกษียณเดือนตุลาคมนี้

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่เพียงแต่ไม่มีผลสอบสวนความผิด ยังไม่มีการแก้ไขคำสั่งที่ผิดพลาด ทำให้เสียโอกาสที่จะไปปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องออกมายื่นฟ้องขอให้ นายกฯ พิจารณาแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพื่อให้ความเป็นธรรมและสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องต่อไป

ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมครม.เพียงสั้นๆ ว่า “ก็ว่าไป เป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องนี้มีการตรวจสอบกันแล้ว ถึงได้ดำเนินการ มีการตรวจสอบแล้วทั้งหมด”

เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบถือว่ามีความผิดจริงใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวตอบเพียงว่า “ให้ฝ่ายกฎหมายว่ากันไป”

ทางด้านการประชุมของคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) วานนี้(23ก.ย.) ได้มีวาระพิจารณากรณี 2 อัยการที่อยู่ในขบวนการสั่งไม่คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส โดยนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธาน ก.อ. เปิดเผยว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับอัยการที่ปรากฏหลักฐานว่าเข้าไปเกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงผลการสอบสวนคดีนายบอส กระทั่งนำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ โดยวันนี้ ก.อ.ประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

วันนี้ยังไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้เนื่องจากต้องรอเอกสารผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการของนายวิชา มหาคุณ ที่ส่งไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ก่อน โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเลขาธิการ ป.ป.ท. ได้โทรศัพท์ตรงมาถึงประธาน ก.อ.ว่าได้รับเอกสารจากคณะกรรมการของอาจารย์วิชา มหาคุณ แล้ว ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 6,000 หน้า นอกจากนี้ ยังมีเทปเสียงที่เป็นหลักฐานว่า หนึ่งในอัยการเข้าไปมีบทบาทเป็นผู้เจรจาคล้ายๆ “นายหน้า” ของเรื่องนี้ ในวงประชุมเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ

เมื่อได้เอกสารทั้งหมดแล้ว ประธานก.อ. จะเป็นผู้อ่านทั้งหมดด้วยตัวเอง จากนั้นก็จะนำเรื่องเข้าสู่การประชุม โดยผ่านเลขาธิการ ก.อ. ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ก่อนที่จะพิจารณาว่าอัยการท่านใดบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ เพื่อที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน

พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อถามหลังประชุม ครม.ถึงคดีนายวรยุทธว่า ตนได้เปิดเผยไปแล้วว่าการดำเนินการอยู่ในส่วนใด เมื่อตำรวจไทยประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงแล้ว เราต้องติดตามดูว่าจะสามารถติดตามตัวบุคคลที่เป็นผู้ต้องหาได้หรือไม่ ถ้าพบก็ต้องขอดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางคดีต่อไป

ตนได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มอบหมายให้เกิดการบูรณาการต้องดำเนินการทุกขั้นตอนโดยไม่ล่าช้า เพราะมีหลายส่วนต้องดำเนินการ ขอให้ติดตามความก้าวหน้าจากคณะทำงาน ป.ป.ท.