หุ้นJKNร้อนแรง เดือนเดียวราคาพุ่ง90%

หุ้นJKNร้อนแรง  เดือนเดียวราคาพุ่ง90%

หุ้นJKNเดือนก.ย.พุ่ง 90.4%   โบรกชี้ ราคาขึ้นแรงแซงพื้นฐาน ที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้  แม้ปรับเป้าหมายขึ้นยังต่ำกว่าราคาปัจจุบัน 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN  วานนี้ (22 ก.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก โดยระหว่างวันราคาหุ้นดีดตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 11.90 บาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ในรอบ 1 ปี 11 เดือน ก่อนที่ราคาจะค่อยๆ ปรับตัวลดลงมาปิดที่ 10.80 บาท  ลดลง 0.10 บาท  หรือ 0.92%

ทั้งนี้จากการตรวจสอบราคาหุ้น JKN ในช่วงวันที่ 1-22 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 90.4% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน จากระดับ 6.25 บาท ในวันที่ 1 ก.ย.2563 มาทำจุดสูงสุดที่ระดับ 11.90 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2563 ประกอบกับราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าแซงหน้าราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไปมากแล้ว จึงทำให้ราคาหุ้นในปัจจุบันจึงถือว่าสูงอย่างมาก

ขณะที่พบว่าในช่วงที่ผ่านมาปริมาณการถือหุ้น JKN ผ่าน NVDR ปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่าตัว หลังราคาหุ้น JKN ปรับตัวขึ้นแรงติดต่อกัน ซึ่งขณะนั้นราคาหุ้นอยู่ที่เพียง 6.40 บาท ในวันที่ 2 ก.ย.2563 และมีปริมาณการถือหุ้นผ่าน NVDR อยู่ที่เพียง 22.6 ล้านหุ้น แต่หลังจากที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายวันติดกัน ปริมาณการถือหุ้นผ่าน NVDR ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2563 อยู่ที่ 41.47 ล้านหุ้นแล้ว ซึ่งถือว่าขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ไปเป็นเรียบร้อยแล้ว

นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินว่าราคาหุ้น JKN ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่ามาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ 1.คือเรื่องผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่น และ2.การเตรียมย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น JKN ในปัจจุบันถือว่าราคาไม่ถูก เพราะยังแพงกว่าพื้นฐานที่ทุกโบรกฯประมาณการไว้แล้ว ซึ่งแม้ฝ่ายวิจัยอาจมีการทบทวนปรับประมาณการมูลค่าที่เหมาะสม ขึ้น แต่ก็เชื่อว่าการปรับขึ้นในรอบนี้ก็ยังไม่เท่ากับราคาซื้อขายในปัจจุบัน

ขณะที่ในส่วนของแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทมีการเจรจาขายคอนเทนต์ให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นและคาดว่าอาจมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดไว้ระดับ 268 ล้านบาท หรือเติบโต 6% จากปี 2562 ส่วนการย้ายหลักทรัพย์เข้ามาเทรดในกระดาน SET นั้นคาดว่าจะเสร็จทันภายในปีนี้ หลังจากบริษัทได้ยื่นเรื่องขออนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้ว