ลดลง

ลดลง

ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ลดลง แนวต้าน 1283 / 1288 จุด แนวรับ 1260 / 1250 จุด แนะนำ ขาย อิงสัญญาณทางเทคนิคจะเกิด Sell Signal หากหลุดจุดต่ำสุดเดิม 1270 จุด โดยมีแนวรับหลักต่อไปที่ 1250 / 1240 จุด หุ้นเด่นวันนี้ คือ MAKRO AUCT TASCO ปัจจัยบวก คือ ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่เสนอโดยศบศ. ส่วนปัจจัยลบ คือ การระบาดรอบสองของ COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลก และสหรัฐฯ รายงานสถาบันการเงินหลายแห่ง ทั่วโลกเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือการฟอกเงิน

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) วิป 3 ฝ่าย หารือเบื้องต้น 6 ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนประชุมวันพรุ่งนี้ (-ความเสี่ยงทางการเมือง กรณีไม่เป็นไปตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม)

      2) หน่วยงานคลังสหรัฐฯ พบการโอนเงินผิดกฎหมายกว่า USD2Trn ระหว่างปี 1997-2017 และอาจเกี่ยวโยงกับบางธนาคารของไทย (-หุ้นธนาคาร)

      3) ประเทศสมาชิกอียูหลายประเทศออกมาตรการควบคุม หลัง COVID-19 ระบาดรอบสอง(-กลุ่มท่องเที่ยวและการเดินทาง)

      4) ตลาดฯ เตรียมยกเลิกการปรับปรุงเกณฑ์ Short Sell, Ceiling-Floor สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. (-ตลาดหุ้นไทย)

      5) จับตาสัญญาณเศรษฐกิจจากการแถลงนโยบายของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาคืนนี้

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ TESLA-จัดประชุมประจำปีชื่อ Battery day / USA-ประธานเฟด สาขาชิคาโก พูดเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในงาน OMFIF / South Korea-พิจารณางบประมาณพิเศษครั้งที่ 4 รับผลกระทบ COVID-19 / EU-Consumer Confidence เดือน ก.ย. Flash คาด -14.7 / USA-Existing Home Sales เดือน ก.ค. คาด +2.4% MoM (Vs เดือน ส.ค. +24.7% MoM) / Japan-ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปสูงสุดที่ 1295.35 จุด +6.96 จุด ในช่วง 15 นาทีแรก ก่อนที่จะร่วงลงแรงในภาคบ่ายมาปิดที่ระดับ 1275.16 จุด -13.23 จุด หรือ -1.03% วอลุ่มเบาบาง 4.01 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -2.68% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -2.37% โดยหุ้นบวก >4% JKN SICT FSMART AH NEX KUMWEL TRUBB RCL CFRESH KSL JTS หุ้นลบ >4% BANPU SPRC SIMAT JSP BANPU

- ตลาดหุ้นโลกดิ่งแรง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งเป็นวันที่ 3 และลดช่วงลบแรงในช่วงปลายตลาด DJIA -1.84% S&P500 -1.16% Nasdaq -0.13% จากหลายปัจจัยลบ อาทิ การวิตกมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ของหลายประเทศทั่วโลก จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สถาบันการเงินหลายแห่งเกี่ยวข้องกับการโอนเงินผิดกฎหมาย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงสุดรอบ 3 เดือน DAX -4.37% CAC40 -3.74% FTSE -3.38% นำลงโดยหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการ (บริติชแอร์เวย์ -12%) กลุ่มธนาคาร (Standard Chartered -5.8% HSBC -5.26%) เพราะหลายประเทศยุโรปเตรียมประกาศมาตรการควบคุมครั้งใหม่ โดยเฉพาะอังกฤษยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 4 หลังพบว่าจานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในทุก ๆ 7 วัน และนายกฯ อาจประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งวันนี้

- น้ำมันดิบและทองคำปิดร่วงแรง: ราคาน้ำมันดิบโลกร่วง Brent -USD1.71 หรือ -4% ปิดที่ USD41.44/บาร์เรล WTI -USD1.8 หรือ -4.4% ปิดที่ USD39.31/บาร์เรล วิตก อุปสงค์น้ำมันร่วงลง จากการออกมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ของอียู ส่วนทองคำดิ่งแรง -USD51.5 ปิดที่ USD1,910.60/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของค่าเงิน USD เพราะตลาดคาดว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยทดแทนทองคำ

ประเด็นสำคัญ

- กลุ่มธนาคารฯ: ราคาหุ้นธนาคารในต่างประเทศร่วงลงแรงวานนี้ HSBC -5.26% Standard Chartered Bank -5.8% หลังรายงานของเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐฯ (FinCen) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารหลายแห่งทั่วโลก ช่วยโอนเงินเงินคอร์รัปชันหรือปล่อยให้มีการโยกย้ายเงินผิดกฎหมายกว่า USUSD2Trn ระหว่างปี 1997-2017 ส่วนธนาคารพาณิชย์ไทย มีประเด็นลบจากข่าวลือวันนี้ว่ามี 4 ธนาคารไทยอยู่ในรายงานด้วย

- ไทย: ตลาดหุ้นไทยเลิกคุม Short Sell/เพดาน Ceiling/Floor ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2020 เป็นต้นไป หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงเกณฑ์มาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. / 18 มี.ค. ตามลำดับ เพื่อลดความผันผวนจากผลกระทบ COVID-19

+/- China: PBOC คงดอกเบี้ยนโยบาย 1 ปี และ 5 ปี ที่ระดับเดิม 3.85% และ 4.65% หลังจากเมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ส่งสัญญาณเศรษฐกิจจีนเติบโตดีต่อเนื่อง

+ ไทย: ครม. ประชุมวันนี้ คาดมีมติเห็นชอบหลักการมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและเพิ่มกำลังซื้อให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประชาชนทั่วไป

แนะนำ ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: WICE KCE SAT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MAKRO AUCT TASCO

Derivatives: ทยอยเปิด Short S50U20 เมื่ออ่อนตัวหลัง 10:30 น. (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)