PYLON - ถือ

PYLON - ถือ

ประมาณการ 3Q63 : อยู่ในภาวะที่ยากลำบาก

Event

Opportunity day และประมาณการ 3Q63

lmpact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q63 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PYLON ใน 3Q63F จะอยู่ที่ 29 ล้านบาท (-52.7% YoY, -26.7% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากการแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น และ ii) เกิดความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างของโครงการคอนโดมิเนียมโครงการหนึ่งเนื่องจาก
ติดกระบวนการขออนุมัติ EIA (ต้องหยุดเครื่องจักร 5 ยูนิต) เราคาดว่ารายได้ใน 3Q63F จะลดลงอยู่ที่ 245 ล้านบาท (-9.1% YoY, -6.7% QoQ) เนื่องจากมีช่วงที่ไม่ได้ใช้งานเครื่องจักรนานขึ้นเล็กน้อย เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเหลือ 22.9% (จาก 27.4% ใน 2Q63 และ 29.5% ใน 3Q62) เนื่องจาก i) รับรู้รายได้จาก backlog ที่เน้นใช้แรงงานน้อยลง (24.1% ของ backlog รวมในปัจจุบัน) ii) การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในการหา backlog ใหม่ ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิในงวด 9M63F จะคิดเป็น 82.9% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

ยังเป็นห่วงประเด็น Backlog และคาดว่าการแข่งขันจะยังคงรุนแรงในปีนี้

PYLON มี backlog ในมือ 620 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดของบริษัทในรอบสามปี เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q63 จะดีขึ้น QoQ เนื่องจากคาดว่าจะมีการใช้งานเครื่องจักรเพิ่มขึ้น (20 ยูนิต) จากการรับมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง HoH เนื่องจากการแข่งขัน
รุนแรงมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการแข่งขันน่าจะแผ่วลงในปี 2564 เนื่องจากเราคาดว่าจะมีงานจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ อย่างเช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (น่าจะมี backlog งานที่เน้นใช้แรงงานประมาณ 8 พันล้านบาท - 1 หมื่นล้านบาท) และรถไฟความเร็วสุงไทย-จีน

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 4.90 บาท อิงจาก PER ที่ 14.0x (PER เฉลี่ยระยะยาว -1 S.D.) ทั้งนี้ จาก backlog ที่ต่ำ และการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้เราชอบ SEAFCO (SEAFCO.BK/SEAFCO TB) มากกว่า เพราะมี backlog สูงถึง 2.6 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ไปจนถึงอย่างน้อย 1H64

Risks

ความไม่สงบทางการเมือง ความล่าช้าของการก่อสร้าง และการลงทุน ผลกระทบจากมาตรการ LTV