ยังคงคาดว่าการปรับลงของหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยดึงจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น

ยังคงคาดว่าการปรับลงของหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยดึงจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น

หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับลดลงแรง จาก 2 ปัจจัย

ได้แก่ 1) การปรับลงของหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ หลังเครือข่ายผู้สื่อข่าวสอบสวงนนานาติ (ICIJ) เผยแพร่เอกสารปี 2543-60 ที่หลุดมาจากหน่วยงานสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐฯ (FinCEN) ระบุธุรกรรมการเงินทั่วโลกที่น่าสงสัยราว 2 ล้านล้านเหรียญฯ เกี่ยวพันถึงธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งของโลก และ 2) สถานการณ์ระบาดของโคโรนาในยุโรปหลายประเทศแย่ลง และอาจต้องดำเนินมาตรการควบคุมที่เข้มข้นอย่างเช่นการปิดเมือง (Lock down) ซึ่งจะกระทบภาพเศรษฐกิจ 3) ความขัดแย้งในรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งทำให้มาตรการเยียวยาโควิดเพิ่มเติมน่าจะล่าช้าไปจนหลังเลือกตั้งประธานาธิปดี

การขาย IPO หุ้น SCGP คาดสร้างแรงกดดันต่อการปรับพอร์ตของนักลงทุนในระยะสั้น โดยหุ้นในส่วนของผู้มีสิทธิ์จองซื้อจากการถือหุ้น SCC (preemptive right) จะทำการชำระค่าหุ้น 28 ก.ย.-2 ต.ค. โดยจำนวน IPO ทั้งหมดราว 1.3 พันล้านหุ้น คิดเป็นเม็ดเงินราว 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราประเมินราวครึ่งหนึ่งนักลงทุนอาจไม่ได้สำรองสภาพคล่องไว้ และจำเป็นต้องขายหุ้นอื่นเพื่อจองซื้อ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อตลาด รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม SET50 ในลำดับท้ายๆที่มีโอกาสหลุดจากคำนวณเนื่องจากการเข้าจดทะเบียนของ SCGP ซึ่งได้แก่ TCAP, AAV และ ERW

ตลท.ยืนยันยกเลิกมาตรการไม่สนับสนุนการขายชอร์ตและจำกัดกรอบการเคลื่อนไหวหุ้น โดยจะกลับไปใช้การดำเนินการตามปกติ ทั้งเรื่องของการขายชอร์ต และปรับกรอบจำกัดการเคลื่อนไหวของหุ้นกลับไปสู่ระดับ +/-30% หลัง 1 ต.ค.63 ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นก.ย. หลังความผันผวน (Volatility) ของ SET Index ปรับลดลงจนเข้าสู่ระดับใกล้เคียงก่อนสถานการณ์โควิดแล้ว

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ การทยอยหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ประกอบกับ SET Index ฟื้นตัวไม่พ้น 1,294 ทำให้ยังไม่ปิดความเสี่ยงทางลง 1,255-1,269 จุด ทำให้ต้องวางกลยุทธ์เก็งกำไรขาลง (ซื้อแนวรับ) โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC*, WHAUP*, ZIGA*, IHL*

แนวรับ 1,250-1,269 จุด / แนวต้าน : 1,281 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

อังกฤษเสี่ยงล็อกดาวน์รอบสองหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน กำหนดประชุมฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้เพื่อหาทางรับมือกับเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง สื่อเผยอาจมีการประกาศล็อกดาวน์รอบสองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ดอยซ์แบงก์คาดเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเท่าระดับ pre-covid ช่วงกลางปี 2564 – ดอยซ์แบงก์คาด GDP โลกดีดตัวขึ้นสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ภายในกลางปี 2564 หลังตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาดในช่วงก่อนหน้า

แบงค์ - ดัชนีกลุ่มแบงก์ปิดร่วง 1.07% หลังมีรายงานข่าวของเว็บไซต์ ICIJ ระบุว่าธนาคาร 4 แห่งของไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย

คลังชงครม.เคาะมาตรการ คนละครึ่งเพิ่มเงินบัตรคนจน ครม.เตรียมพิจารณาให้ความเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศวันพรุ่งนี้ ได้แก่ 1.โครงการคนละครึ่ง โดยแจกเงิน 3,000 บาทให้ประชาชนทั่วไปจำนวน 10 ล้านคน และ 2.โครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน อีกคนละ 500 บาท/เดือน เป็นคนละ 700-800 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.63 หรือเท่ากับเพิ่มให้รวมคนละ 1,500 บาท

ประเด็นติดตาม: 23 ก.ย. – ประชุม กนง. / EU manufacturing PMI เดือน ก.ย. / US crude oil inventories, 24 ก.ย. – US initial jobless claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)