อเมริกาอ่อนแอ สุขภาพแย่ จนลง?

อเมริกาอ่อนแอ สุขภาพแย่ จนลง?

ประชาชนอเมริกันกำลังเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ ทั้งการใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โรคระบาดโควิด-19 สถานการณ์การตกงานกว่า 30 ล้านคน ส่งผลกระทบช่วงเดือน ต.ค.และ พ.ย.นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเมืองอเมริกาด้วย

ขณะที่กำลังเขียนบทความฉบับนี้วันที่ 18 ก.ย.2020 สถานการณ์ทั่วไปของสหรัฐน่าเป็นห่วงมาก ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งนับวันใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่วันที่ 3 พ.ย. ผู้นำปัจจุบันเพื่อรักษาตำแหน่งไว้อีกหนึ่งสมัย จึงต้องนำกลยุทธ์และชั้นเชิงทุกอย่างออกมาใช้ ถึงแม้บางอย่างเป็นการละเมิดประเพณีหรือกติกาต่างๆ ที่เคยปฏิบัติมา

โรคระบาด Covid-19 เป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ยังแก้ไม่ตก คาดว่าภายในวันที่ 1 ต.ค.จำนวนผู้เสียชีวิตในอเมริกาจะเกินกว่า 210,000 คน การติดเชื้อใหม่ปัจจุบันเฉลี่ยประมาณวันละ 43,000 คน และยอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 1,000 คน

นักเรียนนักศึกษาที่เปิดภาคเรียนประจำปี ซึ่งอยู่ในช่วงนี้ ก็กำลังประสบปัญหาของการติดเชื้อระหว่างกัน New York Times รายงานว่าการติดเชื้อในมหาวิทยาลัยทั่วอเมริกากว่า 90,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 60 คนแล้ว บางมหาวิทยาลัยและโรงเรียนก็จำเป็นต้องประกาศหยุดชั่วคราวเพื่อวางแผนใหม่ หลายสถาบันต้องกลับไปสอนออนไลน์ระยะหนึ่งก่อนจนกว่าจะมีวิธีที่รัดกุมกว่า การศึกษาเป็นอุตสาหกรรมใหญ่จึงส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปอีกหลายอุตสาหกรรม ทั้งในและนอกประเทศ

นอกจากประชาชนที่ตกงานกว่า 30 ล้านคน หลายคนต้องอพยพครอบครัวอพยพออกจากเคหสถาน เพราะไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน ตลาดหุ้นกำลังจดจ่อรอการประกาศเงินช่วยเหลือเข้าสู่ระบบ รอมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม แต่เนื่องจากการขัดแย้งระหว่างสองพรรคการเมืองจึงทำให้หยุดชะงัก สัปดาห์นี้มูลค่าหุ้นลดลงโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีตัวเลขใหญ่มาก และกลุ่มนี้ปัจจุบันเป็นตัวยกหรือฉุดดัชนีรวม

รัฐสภาอเมริกันพยายามต่อรองกันอย่างหนัก เพื่อจะให้มีการอนุมัติอะไรออกมา ถึงแม้บางส่วนก็ยังดี พรรครีพับลิกันอยากผลักดันให้ธุรกิจเปิดและคนเข้าทำงานเร็วขึ้น จึงกำหนดตัวเลขที่ประมาณ ครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ส่วนพรรคเดโมแครตซึ่งต้องการให้แก้ปัญหาเรื่องสุขภาพอย่างเด็ดขาด ไม่ต้องการให้เป็นเรื้อรัง ซึ่งหมายความว่าจะต้องใช้งบประมาณเพียงพอในการช่วยให้ชะลอกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการทำธุรกิจ จึงยืนยันที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์

เป็นไปได้ว่าเมื่อบทความนี้ออกมาวันจันทร์ที่ 21 ก.ย. อาจมีการอัดฉีด (บางส่วน) เข้าระบบแล้ว และตลาดหุ้นจะกลับมาคึกคักอีก แต่หากตกลงกันไม่ได้คาดว่าหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรง

โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ระยะนี้ควรลดการถือหุ้นของเทคโนโลยีออกบ้าง และพิจารณาหุ้นของบริษัทธุรกิจปัจจัยสี่ต่างๆ โดยเน้นที่สินค้าและบริการที่เหมาะกับสถานการณ์ของการทำงานและเรียนอยู่ที่บ้านต่อไปอีกระยะหนึ่งครับ

การเมืองของอเมริกาส่งผลกระทบต่อการผลิตและกระจายวัคซีน ความกดดันให้มีวัคซีนออกมาภายในปลายเดือนตุลาคม เพราะจังหวะของการหาเสียง สร้างความตึงเครียดในระบบการแพทย์พยาบาลและธุรกิจยา ชาวอเมริกันเองก็วิตกว่าประสิทธิภาพของวัคซีนยังเป็นที่ไม่น่าไว้วางใจ จากการสำรวจหยั่งเสียงของมูลนิธิ Kaiser ประชาชนอเมริกันเกินกว่าครึ่งระบุว่าจะไม่ยอมรับฉีด ถึงแม้วัคซีนจะฟรีและสะดวกภายในเดือน ต.ค. พ.ย.นี้ นี่เป็นผลของความเชื่อถือที่ลดลง

ไฟป่าที่กำลังเผาผลาญภาคตะวันตกและพายุเฮอริเคนที่มีมากกว่าปกติทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดเจนว่ามาจากพฤติกรรมการอุปโภคและบริโภคของมนุษย์ แต่พรรคการเมืองฝ่ายบริหารของอเมริกาในปัจจุบันเลือกที่จะปฏิเสธ เพราะเรื่องอุดมการณ์และปรัชญาทางการเมือง นอกจากทำให้การแก้ปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติเกิดความเชื่องช้าและไม่ตรงประเด็น ประชาชนก็ตกอยู่ในภาวะทับถมเพิ่มกับปัญหาสุขภาพและเศรษฐกิจ

การเป็นประเทศที่มีสถานะและศักยภาพเศรษฐกิจสูงสุดของโลก โดยความดีโชคดีหรือสิทธิพิเศษของอเมริกานั้น หากไม่ปรับเปลี่ยนแนวทางวิกฤตต่างๆ เหล่านี้ ก็จะดึงอเมริกาตกต่ำลงมาอีก ความไม่ประสานงานกันของแต่ละฝ่ายทำให้เสียโอกาสในการใช้สิ่งที่มีล้นหลาม หกล้มเพราะขัดขากันระหว่างซ้ายกับขวา อเมริกาล้มก็จะทำให้เศรษฐกิจโลกล้มไปด้วย

เราในฐานะผู้บริโภคและผู้มีสิทธิในการกำหนดทิศทางของอนาคตของเราเอง จะต้องใช้สติในการบริโภคและเรื่องการเมืองการปกครอง โอกาสที่เราสามารถรับสาระและข้อมูลเพื่อเข้ามาพิจารณาในการดำรงชีวิตนั้นพร้อมสะดวกและรวดเร็วมากที่สุดปัจจุบัน การใช้สิทธิในการเลือกตั้งทุกครั้งที่เรามีโอกาส เราต้องใช้สิทธินั้นด้วยความละเอียดอ่อนและมองภาพรวมให้ชัดเจน

ประชาชนอเมริกันครั้งนี้กำลังโดนทดสอบ และทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่ พฤติกรรมการบริโภคการลงทุนการดูแลสุขภาพของชุมชนและการเมืองของอเมริกาเป็นสิ่งที่ดูไม่ยากเพราะสังคมเปิด ผมมั่นใจว่าชาวอเมริกันจะผ่านการสอบไล่ครั้งใหญ่ได้ถึงแม้จะสะบักสะบอม

ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด การขัดแย้งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หากมีสติและความอดทน ให้อภัยซึ่งกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะช่วยกันแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง

เดือน ต.ค.และ พ.ย.นี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะโดนผลกระทบโดยตรงจากการเมืองอเมริกา ตั้งการ์ดไว้ให้สูงครับ หากสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเร็ว เพราะผลของการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ บางท่านอาจพลาดโอกาสจากการได้กำไร ก็อาจจะรู้สึกเสียดาย แต่พยายามมองข้ามถึงเดือนธันวาคมและมกราคมปีหน้า ผลการเลือกตั้งของอเมริกาครั้งนี้กระทบกับ portfolio ของเราทุกคนครับ

“นักลงทุนมือใหม่จะมุ่งแต่หากำไร นักลงทุนประสบการณ์สูงจะรู้วิธีไม่ให้ขาดทุน”

ขอความกรุณาท่านผู้อ่านที่เคารพ เชิญชวนญาติมิตรที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในอเมริกา ไปใช้สิทธิ์โดยถ้วนหน้า ข้อมูลทุกอย่างอยู่ที่นี่ครับ www.vote.org