จับตาประกันรถยนต์ แข่งเบี้ยโค้งท้าย

จับตาประกันรถยนต์  แข่งเบี้ยโค้งท้าย

สมาคมประกันวินาศภัย ส่องแนวโน้มครึ่งปีหลังสินไหมประกันรถยนต์กลับเข้าสู่ภาวะปกติไม่เกิน 65% จากอดีตสูงถึง 70% เหตุคนใช้รถน้อย-อุบัติเหตุลดช่วงโควิด  จับตาช่วงต่อประกันรถปลายปีค่ายประกัน หันรุกแข่งเบี้ย เน้นจ่ายเบี้ยถูกแบบรายเดือนตามการใช้รถจริง-ซ่อมอ

นายวาสิต ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI และในฐานะประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตลาดประกันภัยรถยนต์ในครึ่งปีหลัง 2563 มีแนวโน้มภาพรวมอัตราความเสียหาย (loss ratio) กลับมาเข้าสู่ภาวะปกติอยู่ในระดับไม่เกิน 65% จากในอดีตช่วงหลายปีก่อนอยู่ในระดับสูง 70% และเคยพุ่งสูงสุดถึง 80% ในประกันภัยรถชั้น 1 กลุ่มรถป้ายแดงและซ่อมอู่ห้าง

สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 ภาพรวมของความเสียหายดังกล่าวเริ่มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 61.02% และประกันรถชั้น 1 ลดลงมาใกล้เคียง 65% สาเหตุจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีมาตรการล็อกดาวน์ และหลังคลายล็อกดาวน์ คนอยู่บ้านและทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้การใช้รถน้อยลดลง หรือใช้รถเมื่อจำเป็น และการเกิดอุบัติเหตุลดลง

ทางด้านภาพรวมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ครึ่งปีแรก 2563 พบว่า ลดลงราว 2.5% อยู่ที่ 69,238.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 71,076.76 ล้านบาท สาเหตุของการปรับตัวลงเป็นไปตามยอดขายรถใหม่ป้ายแดงลดลงในปีนี้ คาดว่าอยู่ที่ 650,000-700,000 คัน และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปีนี้และปีหน้า ทำให้เปลี่ยนมาซื้อประกันรถ 2+, 3+ ที่มีเบี้ยถูกแทนประกันรถชั้น 1 หรือประกันรถที่จ่ายเบี้ยสั้นลงตามระยะเวลาใช้รถจริง

ขณะเดียวกันด้วยจากปัจจัยทั้งสอง อัตราเคลมลดลงในระดับปกติ ทำให้การรับประกันรถยนต์เริ่มมีกำไรได้บ้าง และลดเบี้ยได้บ้างให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 จึงมองว่าในช่วงต่อประกันรถยนต์ปลายปีนี้ น่าจะเห็นการแข่งขันราคาเบี้ยของค่ายประกันรถยนต์ได้บ้างเนื่องจากขณะนี้ เริ่มเห็นว่า หลายบริษัทประกันปรับผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์มาเป็นตามการใช้รถในระยะเวลาสั้นๆ จ่ายเบี้ย 3 เดือน และ 6 เดือน เน้นซ่อมอู่ในเครือหรือซ่อมศูนย์ จากเดิมเป็นแบบรายปีและซ่อมห้าง ยังมีผลขาดทุนจากรับประกัน