ส.ว.มติเอกฉันท์ ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2564

ส.ว.มติเอกฉันท์ ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2564

ส.ว.มีมติเอกฉันท์ 218 เสียง ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2564 ไม่กล้าแตะ "กลาโหม" ด้าน "สุพัฒนพงษ์" กล่าวขอบคุณ ยืนยันใช้งบโปร่งใส-บรรลุตามเป้า

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.63  ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วงเงิน 3.28 ล้านล้านบาท หลังจากสภาผู้แทน ราษฎรเห็นชอบและส่งมายังวุฒิสภาให้พิจารณา โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าชี้แจงหลักการการจัดทำงบประมาณต่อที่ประชุม จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้ส.ว.อภิปรายแสดงความคิดเห็น บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ส.ว.ตั้งข้อสังเกตอย่างกว้างขวางในหลายกระทรวง ยกเว้นงบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ไม่มีส.ว.คนใดอภิปรายแตะต้อง

โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. อภิปรายท้วงติงการปรับลดงบประมาณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ตัดลดงบอุดหนุนสภาเด็กและเยาวชนในการจัดกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชนสร้างสรรค์สังคม 41 ล้านบาท เหลือ 179 ล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 220 ล้านบาท ทำให้มีงบประมาณไม่เพียงพอ ทั้งที่สภาเยาวชนเป็นกลไกแก้ปัญหาท้องไม่พร้อม การต่อยตี การติดยา เป็นการทอดทิ้งเด็กแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ขณะที่พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ ส.ว. อภิปรายว่า วงเงิน 3.28 ล้านล้านบาท ไม่พบตัวเลขที่ตั้งไว้เพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 ขณะที่ประเทศมหาอำนาจทุ่มเงินซื้อวัคซีนล่วงหน้ากับบริษัทเอกชนที่ผลิตวัคซีน ทั้งที่ยังไม่ทราบว่าจะสำเร็จหรือไม่ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสได้วัคซีนเป็นลำดับต้นๆในการแก้ปัญหา

ด้านนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่รัฐบาลไม่เคยให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเงินเลย รัฐปล่อยปะละเลยหรือใส่ใจน้อยเกินไป นอกจากนี้เงินที่รัฐควรได้จากการบังคับคดีนั้น แต่กลับเพิกเฉย เช่น คดีจำนำข้าว ศาลพิพากษาว่า รัฐจะได้เงินหลายหมื่นล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าเลย หลายคนเกษียณกันไป ปล่อยกันไปหรือที่ใช้คำว่า ช่างหัวมัน ถือว่าไม่ใช่เงินของตัวเอง ทั้งที่เงินเหล่านี้คือรายได้แผ่นดิน รัฐควรต้องเอาไปพิจารณา ส่วนงบประมาณเพื่อการปฏิรูปประเทศนั้น แม้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านเขียนแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้สะท้อนถึงการปฏิรูปให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมืองที่ยังจัดงบประมาณตามปกติ ไม่แสดงถึงการปฏิรูปเลย หรือการปฏิรูปจะสิ้นหวังแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากที่ส.ว.อภิปรายจนครบถ้วนทุกคนแล้ว จึงลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ด้วยคะแนน 218 ต่อ 0 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ถือว่าที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว

จากนั้นนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ขอขอบคุณวุฒิสมาชิกทุกท่านที่ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวันนี้ สำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำ รวมทั้งข้อห่วงใยที่เสนอแนะไว้ตลอดเวลาการประชุมนั้น รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ และจะนำไปปรับปรุงเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการใช้งบประมาณให้มากที่สุด ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลจะนำงบประมาณไปใช้ตามแผนงานและจะกำกับดูแลให้การนำไปใช้นั้นมีความโปร่งใสและบรรลุตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตามความมุ่งหวังของรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภา