ออมสินเล็งระดมหมื่นล้านผ่านบอนด์เพื่อสังคม

ออมสินเล็งระดมหมื่นล้านผ่านบอนด์เพื่อสังคม

ออมสินเตรียมออกพันธบัตรเพื่อสังคมมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในปี 64 หลังเป็นตัวแทนจำหน่ายบอนด์การเคหะระดมทุนสร้างที่อยู่อาศัยวงเงิน6.8 พันล้านบาท ชี้นักลงทุนยื่นความประสงค์เต็มแล้ว พร้อมเปิดซื้อวันที่ 22 ก.ย.นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ตามนโยบายที่ต้องการเป็นธนาคารเพื่อสังคมของออมสิน ธนาคารได้เตรียมแผนออกพันธบัตรเพื่อสังคมในปี 2564 เพื่อสร้างตลาดตราสารหนี้ให้ได้รับความนิยมในวงกว้าง และให้นักลงทุนสถาบันรายเล็กสามารถเข้าถึงการลงทุนได้มากขึ้น โดยในปีแรกคาดว่า จะออกพันธบัตรเพื่อสังคมวงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

"ขณะนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมออกตราสารหนี้ ซึ่งธนาคารออมสินจะดำเนินการเอง โดยไม่ให้กระทรวงการคลังเข้ามาค้ำประกัน เนื่องจาก ธนาคารออมสินมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง โดยช่วงเวลาที่จะออกมานั้น ต้องพิจารณาประกอบกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้นๆ ด้วย แต่ตั้งเป้าจะออกมาในปี 2564”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้มีการออกพันธบัตรออมทรัพย์แล้ว 3 หมื่นล้านบาท ส่วนในปี 2563 ธนาคารออมสินจะเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) ของการเคหะแห่งชาติ พ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 6.8 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรัฐวิสาหกิจไทยที่มีการออกพันธบัตรประเภทนี้

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้คัดเลือกธนาคารออมสินให้เป็นผู้จัดการจัดจำหน่าย สำหรับพันธบัตรดังกล่าว มีจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 5 ปี วงเงิน 1 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.02% ต่อปี รุ่น 10 ปี วงเงิน 2.8 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.64% ต่อปี และรุ่น 15 ปี วงเงิน 3 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.90% ต่อปี ซึ่งกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย

พันธบัตรดังกล่าวได้เปิดให้นักลงทุนแสดงความจำนงแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563 และปัจจุบันมีนักลงทุนยื่นความประสงค์ครบตามจำนวนแล้ว ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 22 ก.ย.2563 นี้ และจะเรียกนักลงทุนที่ยื่นความประสงค์มาจองซื้อในวันดังกล่าว

ด้านนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าวว่า การออกพันธบัตรเพื่อสังคมของการเคหะแห่งชาติครั้งนี้ เป็นการออกพันธบัตรเพื่อรีไฟแนนซ์(Refinance) การลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยทั้งประเภท เช่า เช่าซื้อ และซื้อ ที่มีระดับราคาที่รับภาระได้

“เป็นการขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานมนุษย์มีความยั่งยืนและประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ ซึ่งจะมีประชาชนประมาณ 13,569 ครัวเรือน หรือประมาณ 54,000 คน ได้รับประโยชน์จากการออกพันธบัตรในครั้งนี้ ซึ่งการออกพันธบัตรเพื่อสังคมในครั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการแบบให้เปล่าจากธนาคารพัฒนาเอเชีย ทำให้การออกพันธบัตรเป็นไปตามมาตรฐานสากลของInternational Capital Markets Association (ICMA) และ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF)