"กลยุทธ์การลงทุน"รายสัปดาห์ (21 ก.ย.63)

"กลยุทธ์การลงทุน"รายสัปดาห์ (21 ก.ย.63)

21-25 กันยายน: น่าจะฟื้นตัวได้ในระดับหนึ่ง

สรุปภาวะตลาดและมุมมองสัปดาห์นี้: ในสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยย่อลงเล็กน้อยเพราะถูกกดดันจาก i) ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในวันที่ 19 กันยายน และ ii) แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากมีข่าว BBL* ออกหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ซึ่งเป็นตราสารที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ได้ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินกองทุนในระบบธนาคารไทย สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มดัชนี SET และคาดว่าน่าจะขยับขึ้นได้พอสมควร โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนตลาดในสัปดาห์นี้ได้แก่ i) การชมนุมต่อต้านรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย และไม่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรง ii) สภาวะของสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นจากความหวังต่อการพัฒนาวัคซีนป้ องกัน COVID-19 แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าสภาวะตลาดหุ้นโลกหุ้นยังคงเปลี่ยนแปลงได้เร็ว เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในยุโรปยังคงเร่งตัวขึ้นและยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลักใน 4Q63 และต้นปี 2564 จากการที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศหลักพากันออกมาแสดงท่าทีเป็นห่วง โดยเฉพาะ Fed

ธีมการลงทุน ปัจจัย และกระแสข่าวสำคัญที่จะมีผลกับตลาดในสัปดาห์นี้:

(+) การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลไม่เกิดเหตุรุนแรง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้จัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันเสาร์ไปจนถึงเช้าวันอาทิตย์ แต่อย่างไรก็ตาม การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ และไม่ปรากฏรายงานว่าเกิดการะปะทะกันอย่างรุนแรงแต่อย่างใด ดังนั้น นักลงทุนจึงน่าจะคลายความกังวลเกี่ยวกับสภาวะการเมืองไทยลง ในขณะเดียวกัน ผู้ชุมนุมก็นัดจะรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 24 กันยายนที่รัฐสภา

(+) มีความหวังว่าจะมีการนำวัคซีน COVID-19 ออกมาใช้ใน 4Q63 นอกจาก Pfizer ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้ผลิตยารายแรก ๆ ที่สามารถนำวัคซีน COVID-19 ออกมาใช้ได้แล้ว Moderna Inc. ก็เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนจะผลิตวัคซีนให้ได้ 20 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มความหวังต่อการนำวัคซีนมาเริ่มใช้

(0) ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรม PMIs เดือนกันยายนของหลายประเทศที่จะประกาศในวันพุธ ในวันที่ 23 กันยายน Markit จะประกาศดัชนีการผลิตอุตสาหกรรม PMIs ของสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่บ่งถึงโมเมนตั้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศหลัก
โดยเฉพาะ Fed ได้ออกมาเตือนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แผ่วลง

(0) การตัดสินนโยบายการเงิน และการปรับประมาณการ GDP ของ กนง. คณะกรรมการนโยบายการเงินมีกำหนดการประชุมในวันที่ 23 กันยายน โดยนักเศรษฐศาสตร์ของเราและ consensus คาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 0.50% นอกจากนี้ กนง. ก็จะเผยแพร่การปรับประมาณการ
GDP ปี 2563-64 ใหม่ด้วย ซึ่งเรามองว่า กนง. อาจจะปรับลดสมมติฐานด้านการท่องเที่ยวลง ซึ่งจะไปหักล้างกับการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น ดังนั้น เราคาดว่าประมาณการ GDP ใหม่ของปี 2563 จึงน่าจะยังใกล้เคียงกับประมาณการปัจจุบันของ กนง. ที่ -8.1%

ธีมหุ้นที่เราสนใจ:

เราคาดว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลก และกลุ่มท่องเที่ยวจะ outperform ตลาด จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 และมาตรการกระตุ้นการทท่องเที่ยวไทยรอบใหม่ รวมถึงแผนที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวประเภท long-stay เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ได้ เรายังคงมุ่งเน้นไปที่หุ้น cyclical บางตัวอย่างเช่น PTT* และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเช่น HANA* นอกจากนี้ เราก็ยังชอบหุ้นกล่มท่องเที่ยว อย่างเช่น MINT* และ CENTEL* ซึ่งน่าจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่เพิ่งมีการประกาศออกมา และความหวังเกี่ยวกับวัคซีน