แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

แกว่งตัว รอปัจจัยใหม่

คาด SET แกว่งตัว 1,280 - 1,295 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากการชุมนุมไม่มีความรุนแรง

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET ปิดบวกเล็กน้อย 3.99 จุด (+0.31%) ปิดที่ระดับ 1,288 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงซื้อช่วงท้ายตลาดการปรับพอร์ต FTSE Rebalance อย่างไรก็ตามดัชนีถูกกดด้วยแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการชุมนุมกลุ่มนักศึกษา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

มุมมองเป็นกลาง คาด SET แกว่งตัว 1,280 - 1,295 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากการชุมนุมไม่มีความรุนแรง แต่การที่กลุ่มนักศึกษาจะกลับมาชุมนุมอีกครั้งในเดือนหน้ายังคงเป็น Overhang ต่อตลาด ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน รวมถึง Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องจะเป็นแรงกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน: รอซื้อ

  • กลุ่มที่คาดว่างบ 3Q20 เติบโต TU ASIAN COM7 CHG PTG PLANB 
  • PTTEP TOP PTTGC ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CBG (ปิด 114 ซื้อ/เป้า 145) ราคาหุ้นลดลง 10% ในสัปดาห์ที่ผ่านมามองสะท้อนผลลบจากพม่า lockdown กรุงย่างกุ้งไปแล้ว ขณะที่ผลประกอบการยังเติบโตได้ทั้งยอดขายและจากการลดต้นทุน
  • MTC (ปิด 51.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 61) แนวโน้มผลกำไรยังโตต่อ จากยอดสินเชื่อที่ขยายตัวตามการขยายสาขา ขณะที่ครึ่งปีหลังได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยต่ำซึ่งกู้จากธนาคารออมสิน

บทวิเคราะห์วันนี้

AOT (ปิด 56.25 ปรับเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 70 เดิม 56.0)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) การชุมนุมจบเร็ว แต่ Overhang ยังมีต่อ: กลุ่มเยาวชนปลดแอกประกาศยุติการชุมนุมทันทีหลังจากเข้ายื่นข้อเรียกร้องเพื่อปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ การชุมนุมที่จบเร็วและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงถือเป็น Sentiment บวกกับตลาดในระยะสั้น แต่ Overhang ทางการเมืองยังไม่จบเนื่องจากจะมีการนัดชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ย. ที่หน้าอาคารรัฐสภา
  • (-) Tech war จีนกับสหรัฐ ยังต้องติดตามหลังสหรัฐสั่งปิดแอป TikTok และWechat: เมื่อวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐสั่งปิดการดาวน์โหลดแอปฯ ของ Wechat และ TikTok จากแอปสโตร์ของสหรัฐ มีผล 20 ก.ย. อย่างไรก็ตามล่าสุดศาลยุติธรรมของสหรัฐมีคำสั่งระงับการแบนชั่วคราว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเลื่อนคำสั่งแบนดังกล่าวออกไปอีก 1 สัปดาห์
  • (+/-) ติดตาม ประชุมกนง. และ ตัวเลข PMI ของประเทศเศรษฐกิจหลัก: เราคงมุมมองเป็นการคาด กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามเดิมแต่แนะให้ติดตามการเปลี่ยนประมาณการณ์ GDP ส่วนอีกปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย.(เบื้องต้น) คาดสหรัฐยังฟื้นตัวในอัตราเร่งส่วนจีนและยูโรโซนจะเริ่มชะลอตัว