กลต.ชี้ กองทุนจ่อยื่นตั้งไฮยิลด์บอนด์

นางสาวจอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายระดมทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากที่ก.ล.ต.ได้มีการออกหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19นั้น ขณะนี้มีผู้สนใจที่จะเข้ามายื่นคำขออนุญาตจัดตั้งกองทุนแล้ว โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส4ปีนี้ จะเริ่มเข้ามายื่นคำขออนุญาตจัดตั้งกองทุน

สำหรับที่ผ่านมาก.ล.ต.ได้มีการประกาศและซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงฯ หลังจากที่ก.ล.ต.ได้ กำหนดหลักเกณฑ์และได้ออกประกาศที่เกี่ยวข้องจำนวน 9 ฉบับ

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการออกประกาศเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบธุรกิจที่ได้มีการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (high yield bond) อาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจขาดสภาพคล่อง และมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระหนี้หรือไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนรวมที่เน้นลงทุนใน high yield bond (กองทุน) เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ออก high yield bond บางรายที่ประสบปัญหาสภาพคล่องยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ลดผลกระทบต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนรายใหญ่ (HNW) เปลี่ยนพฤติกรรมจากการลงทุนโดยตรงใน high yield bond มาลงทุนผ่านกองทุนที่มีผู้เชี่ยวชาญช่วยคัดเลือกตราสารและบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ โดยมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด high yield bond และสร้างเสถียรภาพในตลาดรองตราสารหนี้อีกด้วย  

โดยการจัดตั้งกองทุนต้องยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งกองทุนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในปี 2564 ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนนั้นกำหนดให้สามารถเสนอขายหน่วยลงทุนต่อเฉพาะผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor หรือ II) และหรือ HNW เท่านั้น ซึ่งต้องมีผู้ถือหน่วยขั้นต่ำ 10 ราย แต่จะไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วย

 ส่วนเงื่อนไขการลงทุนของกองทุนจะลงทุนใน high yield bond อย่างน้อยร้อยละ 60 ของ NAV ภายใน 6 เดือนนับจากจัดตั้งกองทุน และดำรงสัดส่วนดังกล่าวตลอดอายุกองทุน