วันเดียวก็’เที่ยว’ได้ ‘นครศรีธรรมราช’บนเส้นทางสายศรัทธาและอาหาร

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเที่ยวบิน WE233 เวลา 07.00น.ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเวลา 8.25 น. มีพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ด้วยอุโมงค์น้ำ ตอนอยู่บนเครื่องไม่ทราบเลยกระทั่งมาเห็นวิดีโอภายหลังเป็นภาพที่สวยงามน่าชมทีเดียว เข้ามาถึงภายในสนามบินมีการแสดงนาฏศิลป์ของภาคใต้ท่วงท่าร่ายรำงดงาม ส่วนเครื่องประดับและลวดลายผ้านั้นดึงดูดสวยตามากมาย รวมทั้งการเส้นสายที่ระบายสีบนใบหน้าก็ชวนมอง

อุโมงค์น้ำ

มาถึงแต่เช้าเราก็มีเวลาเที่ยวกันยาวหน่อยทริปนี้จัดเป็นเส้นทางสายศรัทธาเนื่องจากเช้าจะไปวัดพระธาตุวรมหาวิหาร วัดสำคัญในอำเภอเมือง ส่วนช่วงบ่ายจะไปวัดเจดีย์ไอ้ไข่ อำเภอสิชล แล้วกลับมาขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ เที่ยวบิน WE236 ออกจากนครศรีธรรมราชเวลา 18.55 น.ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆก็ถึงกรุงเทพฯแล้ว

ส่วนอาหารใต้รสจัดแบบฉบับเมืองนครศรีธรรมราชรับประทานเป็นมื้อกลางวันที่ร้านครัวนคร พร้อมชิมซาลาเปาและกาแฟที่ร้านโกปี๊ มื้อเย็นเป็นขนมจีนเส้นสดแม่แอ๊ดร้านดังที่ปกติบ่ายๆก็หมดแล้ว แต่ทางไทยสมายล์จองไว้ล่วงหน้าทำให้ไม่พลาดอาหารอร่อย (ปกติคนนครฯกินขนมจีนเป็นมื้อเช้าเราสลับมากินมื้อเย็นแทน)

ของที่ระลึกสำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช

มื้อเช้าไม่ได้หายไปไหนรับประทานกุ้งอบวุ้นเส้นบนเครื่องพร้อมจิบกาแฟมาแล้วเรียบร้อย สามารถรับประทานอาหารบนเครื่องบินได้แล้วเป็นความดีใจเล็กๆของคนช่างกิน สรุปว่ามีอาหารกินครบสามมื้อ แถมท้ายด้วยข้าวหน้าแซลมอนย่างขากลับที่เสิร์ฟบนเครื่องบิน ด้วยความที่ฟินกับขนมจีนแล้วจึงหิ้วใส่ถุงกลับบ้านเป็นอาหารเช้าได้อีกมื้อ

บันไดในวิหารพระมหาภิเนษกรมณ์ (มีประติมากรรมรูปขัตตุคาม รามเทพ ผู้พิทักษ์พระบรมสารีริกธาตุ เฝ้าอยู่หน้าประตู)

นครศรีธรรมราช เป็นเมืองโบราณที่มีหลักฐานทางโบราณคดีระบุว่ามีอายุเก่าแก่ไปถึงช่วงพุทธศตวรรษที่ 7 หากช่วงเวลาที่มีความเจริญสูงสุดนั้นอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17-18 ภายใต้การปกครองของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช และชื่อเมืองแห่งนี้ก็มาจากสร้อยพระนามของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช นั่นเอง

มีตำนานกล่าวถึงเมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กำลังจัดงานสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าพระบฏ(ผ้าผืนยาวที่เขียนภาพพุทธประวัติ)ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง ชาวบ้านจึงนำขึ้นถวายพระเจ้าศรีธรรมมาโศกราช พระองค์โปรดให้นำไปซักให้สะอาดพบว่าลายภาพนั้นยังคงอยู่ จึงให้ตามหาที่มาของผ้าบฏผืนนี้จึงได้ทราบว่าเป็นของชาวพุทธกลุ่มหนึ่งที่จะนำไปบูชาพระเขี้ยวแก้วที่ศรีลังกา แต่เรือถูกมรสุมพัดเสียก่อนทำให้รอดชีวิตเหลือเพียงสิบคน เมื่อทราบดังนั้นจึงทรงให้นำผ้าพระบฏไปห่มที่พระบรมธาตุเจดีย์ในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ ผู้รอดชีวิตและชาวนครศรีธรรมราชจึงร่วมกันจัดพิธีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์ อันเป็นที่มาของประเพณีแห่ผ้าห่มสืบมาจนถึงปัจจุบัน โดยปกติจัดขึ้นในวันวิสาขบูชาและวันมาฆบูชา

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการและรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินนำขบวนแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์

ขบวนแห่ผ้าห่มพระธาตุ

สำหรับการมาถึงของเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินไทยสมายล์ ทางวัดจัดให้มีพิธีแห่ผ้าขึ้นเป็นพิเศษ ครั้งนี้จึงมีโอกาสเดินขึ้นสู่บันไดในวิหารพระมหาภิเนษกรมณ์ (มีประติมากรรมรูปขัตตุคาม รามเทพ ผู้พิทักษ์พระบรมสารีริกธาตุ เฝ้าอยู่) มุ่งสู่ลานประทักษิณรอบองค์พระธาตุ  โดยมีสาธุชนร่วมขบวนกันอย่างอบอุ่น ทั้งนี้แก่นแท้ของการห่มผ้าองค์พระธาตุคือการได้บูชาพระพุทธเจ้านั่นเอง

อิ่มบุญในช่วงเช้าแล้ว มาอิ่มท้องกับอาหารตำรับนครศรีธรรมราชที่ร้านครัวนคร รสเผ็ดร้อนจัดจ้านที่ต้องร้องขอข้าวสวยเพิ่มอีกหลายๆจาน เพราะว่ามีทั้ง น้ำชุบโจรใส่กุ้งสับ (น้ำพริกกะปิที่ใช้วิธีขยำแทนตำ) มาพร้อมผักสดและผักต้มกะทิ กั้งลวกตัวโตพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเข้มข้นที่ขอยกนิ้วให้ แกงเหลืองปลากะพงน้ำแกงสุดเข้มข้น สะตอผัดกะปิใส่กุ้ง และปลาดุกร้าที่ชวนคลุกข้าวเป็นที่สุด

ปลาดุกร้า

เมนูคาวหวานร้านโกปี๊

ส่วนร้านโกปี๊ที่อยู่ติดกัน มีบักกุ๊ดเต๋ ขนมจีบ ซาลาเปา ข้าวมันแกง (ไก่,หมู,เนื้อ) เป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบอาหารรสเบาๆ อย่างไรก็ดี การได้กินขนมปังสังขยา กับเมนูกาแฟโบราณ ถือเป็นความสำราญทางอาหารที่จบมื้อกลางวันด้วยความหวานหอม

จากอำเภอเมืองใช้เวลา 1 ชั่วโมงเดินทางต่อไปยังอำเภอสิชล มุ่งหน้าไปที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ อันลือลั่นเจ้าของคำกล่าวที่ว่า “ขอได้ ไหว้รับ”

ระหว่างทางเข้าสู่วัดเจดีย์ ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยรูปปั้นไก่ทำจากไฟเบอร์กลาสขนาดสูงท่วมหัวจัดวางเป็นระยะ สลับกับรูปปั้นไก่ทำจากวัสดุอื่นๆตัวเล็กใหญ่วางเรียงกันไป ว่ากันว่าเป็นส่วนหนึ่งที่คนนำมาให้ไอ้ไข่เพื่อขอพรบ้าง แก้บนบ้าง จำนวนมากมายก่ายกองจริงๆ เช่นเดียวกับจำนวนของประทัดที่คนจุดแก้บนซึ่งชิ้นส่วนที่เหลือกองกันเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ

วัดเจดีย์ไอ้ไข่

“ไอ้ไข่” คือ ใคร  “ไข่” ไม่ใช่ชื่อ แต่ “ไอ้ไข่” เป็นคำที่คนใต้ใช้เรียกเด็กเล็กๆ ส่วนไอ้ไข่ในที่นี้เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเด็กวัดที่ทำหน้าที่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติบริเวณที่เป็นวัดเจดีย์ในปัจจุบัน ชาวบ้านเชื่อกันว่า “ไอ้ไข่” เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในละแวกนั้น ไปจนถึงชาวบ้านจังหวัดต่างๆ ในแถบภาคใต้ โดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภ และการค้าขาย

ความเชื่อ ความศรัทธาประกอบกับความปรารถนาของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ถนนทุกสายในช่วงเวลานี้มาหยุดอยู่ที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ เพื่อขอให้พบกับความสมหวังสักครั้ง

หลังจากฝากความหวังไว้ที่ไอ้ไข่แล้ว มีเวลาสำหรับมื้อเย็นที่ร้านขนมจีนเส้นสดแม่แอ๊ด ร้านชื่อดังในอำเภอเมืองก่อนขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ  ที่ว่าเส้นสดนั้นเป็นเพราะว่าจะบีบเส้นสดๆลงในหม้อน้ำร้อนทันทีที่ลูกค้าสั่ง ขนมจีนที่เสิร์ฟให้จึงเป็นขนมจีนที่ทำเสร็จใหม่ๆ กินคู่กับน้ำพริก น้ำยา แกงไตปลา หรือจะตักน้ำแกงทั้งสามชนิดผสมกันก็เป็นสูตรอร่อยที่นิยมรับประทานกันด้วย มาแล้วอย่าลืมสั่งหมูทอด กุ้งทอดมากินเคียงกัน ส่วนผักสด ผักดอง ผักต้มกะทิ คนรักผักบอกว่าแฮปปี้มาก

ขนมจีนเส้นสดแม่แอ๊ด เวลากินต้องใช้กรรไกรตัด

นครศรีธรรมราชวันเดียวก็เที่ยวได้ครบทั้งเส้นทางของศรัทธาและอาหาร นับเป็นหนึ่งวันที่อิ่มใจและอิ่มท้องไปพร้อมกัน

หมายเหตุ  : เที่ยวบินกรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช  ไทยสมายล์ให้บริการ 2 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิส และน้ำหนักกระเป๋าฟรี 30 กิโลกรัม ในโอกาสเปิดเที่ยวบินใหม่นี้ ราคาเริ่มต้น 900 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว) จองและเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 กันยายน 2563 สำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ www.thaismileair.com, ศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) โทร. 1181 หรือ 0 2118 8888