'นิด้าโพล' ชี้ประชาชนเชื่อว่า 'การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ' ยังมีการใช้เส้นสาย

'นิด้าโพล' ชี้ประชาชนเชื่อว่า 'การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ' ยังมีการใช้เส้นสาย

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจ “การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ” จากประชาชนที่เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจ สะท้อนว่ายังคงมีระบบอุปถัมภ์หรือใช้เส้นสาย

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพลสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15–17 กันยายน 2563 จากประชาชนที่เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษา รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,343 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และความเป็นธรรมการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการการสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น จากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูล ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0

160058832263

  •  การพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.57 ระบุว่า ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งใหม่ รองลงมา ร้อยละ 24.80 ระบุว่า ความสามารถและผลงาน ที่ผ่านมา ร้อยละ 14.37 ระบุว่า ความอาวุโสในตำแหน่ง ร้อยละ 8.19 ระบุว่า ความรู้ (เช่น ระดับการศึกษา การเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ เป็นต้น) ร้อยละ 7.22 ระบุว่า วิสัยทัศน์ในการทำงานตำแหน่งใหม่ ร้อยละ 5.58 ระบุว่า ระเบียบ วินัยและความประพฤติที่ผ่านมา ร้อยละ 0.67 ระบุอื่นๆ ได้แก่ การใช้เส้นสายของที่ผู้พิจารณา เอาพรรคพวกเดียวกัน และร้อยละ 0.60 ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 33.95 ระบุว่า ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งใหม่ รองลงมา ร้อยละ 24.36 ระบุว่า ความสามารถและผลงานที่ผ่านมา ร้อยละ 16.93ระบุว่า ความอาวุโสในตำแหน่ง ร้อยละ 12.54 ระบุว่า ความรู้ (เช่น ระดับการศึกษา การเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ เป็นต้น) ร้อยละ 6.23 ระบุว่า วิสัยทัศน์ในการทำงานตำแหน่งใหม่ ร้อยละ 5.03 ระบุว่า ระเบียบ วินัยและความประพฤติที่ผ่านมา ร้อยละ 0.72 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ การใช้เส้นสายของผู้ที่พิจารณาเอาพรรคพวกเดียวกัน และร้อยละ 0.24 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

  •  ความเป็นธรรมในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ 

ด้านความคิดเห็นต่อความเป็นธรรมในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ พบว่า ร้อยละ 14.00 ระบุว่า มีความเป็นธรรมมาก ร้อยละ 35.37 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเป็นธรรม ร้อยละ 35.51ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเป็นธรรม ร้อยละ 12.66 ระบุว่า ไม่มีความเป็นธรรมเลย และร้อยละ 2.46 ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ สำหรับผลสำรวจในปี 2562 พบว่า ร้อยละ 13.10 ระบุว่า มีความเป็นธรรมมาก ร้อยละ 32.67 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเป็นธรรม ร้อยละ 37.86 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเป็นธรรม ร้อยละ 12.78 ระบุว่า ไม่มีความเป็นธรรมเลย และร้อยละ 3.59  ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

สำหรับความคิดเห็นต่อการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในหน่วยงาน พบว่า ร้อยละ 19.73 ระบุว่า มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายอย่างมากร้อยละ 33.65 ระบุว่า มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายค่อนข้างบ่อย  ร้อยละ 21.00 ระบุว่า ไม่ค่อยมีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสาย ร้อยละ 23.83 ระบุว่า ไม่มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายเลย และร้อยละ 1.79 ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ในขณะที่ผลการสำรวจ ปี 2562 พบว่า ร้อยละ 13.58 ระบุว่า มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายอย่างมาก ร้อยละ 33.07 ระบุว่า มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายค่อนข้างบ่อย  ร้อยละ 23.72 ระบุว่า ไม่ค่อยมีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสาย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ไม่มีการใช้ระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสายเลย และร้อยละ 3.83 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในหน่วยงาน พบว่า ร้อยละ 10.05 ระบุว่า มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เป็นประจำ ร้อยละ 20.63 ระบุว่า มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ค่อนข้างบ่อย ร้อยละ 19.73 ระบุว่า ไม่ค่อยมีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ร้อยละ 42.44 ระบุว่า ไม่มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เลย และร้อยละ 7.15 ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ในขณะที่ปี 2562 ผลสำรวจ พบว่า ร้อยละ 6.23 ระบุว่า มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เป็นประจำ ร้อยละ 18.85 ระบุว่า มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ค่อนข้างบ่อย ร้อยละ 21.64 ระบุว่า ไม่ค่อยมีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ร้อยละ 44.65 ระบุว่า ไม่มีการใช้ระบบแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เลย และร้อยละ 8.63ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

  •  ความเป็นธรรมในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้าย 

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการดำเนินการหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้าย พบว่า ส่วนใหญ่  ร้อยละ 52.20 ระบุว่า จะใช้วิธีการอุทธรณ์ร้องไปตามขั้นตอนของระเบียบข้าราชการ รองลงมา ร้อยละ 23.31 ระบุว่า ไม่ทำอะไรเลย เพราะเป็นกฎระเบียบซึ่งลูกน้องต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ทำอะไรไม่ได้เลย จึงต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 10.35 ระบุว่า ฟ้องศาลปกครองทันที ร้อยละ 4.24 ระบุว่า ใช้ Social Network เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ร้อยละ 3.87 ระบุว่า ลาออก ร้อยละ 1.94 ระบุว่า ฟ้องสื่อมวลชน ร้อยละ 0.89 ระบุว่า พยายามหาเส้นสายที่ใหญ่กว่าไปกดดันให้มี การเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 0.22 ระบุอื่นๆ ได้แก่ สอบถามเหตุผลในการสั่งย้ายแล้วนำไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่หรือฝ่ายกฎหมายในหน่วยงาน และร้อยละ 2.98 ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ ปี 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 50.00 ระบุว่า จะใช้วิธีการอุทธรณ์ร้องไปตามขั้นตอนของระเบียบข้าราชการ รองลงมา ร้อยละ 29.55 ระบุว่า ไม่ทำอะไรเลย เพราะ เป็นกฎระเบียบซึ่งลูกน้องต้องทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ทำอะไรไม่ได้เลย จึงต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 9.02 ระบุว่า ฟ้องศาลปกครองทันที ร้อยละ 4.07 ระบุว่า ลาออก ร้อยละ 2.40 ระบุว่า ฟ้องสื่อมวลชน ร้อยละ 2.32 ระบุว่า ใช้ Social Network เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ร้อยละ 1.36 ระบุว่า พยายามหาเส้นสายที่ใหญ่กว่าไปกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 0.08 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ สอบถามเหตุผลในการสั่งย้ายแล้วนำไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่หรือฝ่ายกฎหมายในหน่วยงาน และร้อยละ 1.20 ระบุว่า ไม่มีความเห็น/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ

  •  ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง 

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 8.56 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 25.99 มีภูมิลำเนาอยู่ปริมณฑลและภาคกลาง ร้อยละ 18.02 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.73 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 13.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ตัวอย่างร้อยละ 48.92 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.08 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่างร้อยละ 2.46 มีอายุ 18 – 25 ปี ร้อยละ 20.03 มีอายุ 26 – 35 ปี ร้อยละ 29.71 มีอายุ 36 – 45 ปี ร้อยละ 44.23 มีอายุ 46–59 ปี และร้อยละ 3.57 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 95.75 ระบุว่า นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.98 ระบุว่า นับถือศาสนาอิสลาม  ร้อยละ 0.82  ระบุว่า นับถือศาสนาคริสต์/ฮินดู/ซิกข์/ยิว/ไม่นับถือศาสนาใดๆ และร้อยละ 0.45 ไม่ระบุศาสนา

ตัวอย่างร้อยละ 29.79 ระบุว่าสถานภาพโสด ร้อยละ 66.49 สมรสแล้ว ร้อยละ 3.20 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ และร้อยละ 0.52 ไม่ระบุสถานภาพการสมรส ตัวอย่างร้อยละ 12.88 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.27 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 53.61 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 24.87 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 0.37 ไม่ระบุการศึกษา

ตัวอย่างร้อยละ 4.32 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 30.68 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001–20,000 บาท ร้อยละ 25.91   มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001–30,000 บาท ร้อยละ 16.60 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001– 40,000 บาท ร้อยละ 18.02 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน    40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 4.47 ไม่ระบุรายได้