หลายเมืองใหญ่ยุโรปคุมเข้มสกัดโควิดระบาดรอบสอง

หลายเมืองใหญ่ยุโรปคุมเข้มสกัดโควิดระบาดรอบสอง

สื่อต่างประเทศรายงานว่า หลายเมืองใหญ่ในยุโรปประกาศมาตรการคุมเข้มรอบใหม่หลังยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น

ประเทศในยุโรป ตั้งแต่เดนมาร์กไปจนถึงกรีซ ประกาศมาตรการควบคุมครั้งใหม่เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายเมืองใหญ่ และมีรายงานว่า อังกฤษกำลังพิจารณาที่จะประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งใหม่ด้วย

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า สู่ระดับ 6,000 รายต่อวันในสัปดาห์ล่าสุด, การรับผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และอัตราการติดเชื้อพุ่งขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทางภาคเหนือของอังกฤษ และในกรุงลอนดอน

นายบอริส จอห์สัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดรอบสอง และขณะที่เขาไม่ต้องการที่จะล็อกดาวน์ประเทศอีกนั้น รัฐบาลอาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการควบคุมครั้งใหม่

นายจอห์นสันกล่าวว่า "เรากำลังเห็นการระบาดรอบสอง ผมเกรงว่า เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างมากทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องทำการทบทวนมาตรการต่างๆ

ทั้งนี้ อังกฤษได้เริ่มกำหนดมาตรการที่เข้มงวดครั้งใหม่เพื่อสกัดโรคโควิด-19 ในนอร์ท เวสต์, มิดแลนส์ และเวสต์ ยอร์กเชียร์แล้วตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ยอดติดเชื้อโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศยุโรปส่วนใหญ่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่การรับผู้ป่วยไอซียูและการเสียชีวิต เริ่มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสเปนและฝรั่งเศส

ในสเปนนั้น กรุงมาดริดซึ่งเป็นเมืองหลวงจะจำกัดการเคลื่อนย้ายระหว่างเมือง และภายในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งขึ้น ซึ่งมาตรการควบคุมจะส่งผลกระทบกับประชาชนมากกว่า 850,000 ราย

เมืองนีซทางภาคใต้ของฝรั่งเศสได้สั่งห้ามประชาชนชุมนุมกันมากกว่า 10 คนในพื้นที่สาธารณะ และจำกัดชั่วโมงการเปิดผับบาร์ หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์เมืองมาร์เซย และเมืองบอร์โดได้ประกาศมาตรการควบคุมครั้งใหม่

ฝรั่งเศส เปิดเผยเมื่อวันศุกร์(18ก.ย.)ว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 13,200 รายซึ่งเพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาด

เดนมาร์กประกาศจำกัดการรวมตัวของประชาชนในที่สาธารณะลงเหลือ 50 คนจาก 100 คน และสั่งผับบาร์และร้านอาหารให้ปิดบริการเร็วขึ้น ไอซ์แลนด์สั่งสถานบันเทิงและผับบาร์ในเมืองเรคยาวิกซึ่งเป็นเมืองหลวงให้ปิดทำการ 4 วันในระหว่างวันที่ 18-21 ก.ย. ขณะที่ในกรุงดับลินของไอร์แลนด์ สั่งห้ามการรับประทานอาหารในร้านและการทำกิจรรมในร่ม หลังจากยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ด้านนายมาร์ค รัตต์ นายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่า รัฐบาลของเขาเตรียมที่จะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด หลังจากเนเธอร์แลนด์มีผู้ติดเชื้อสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,972 รายในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา

ส่วนนายคิเรียกอส มิตโซตากิส นายกรัฐมนตรีของกรีซเปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมที่จะคุมเข้มข้อจำกัดต่างๆ ในกรุงเอเธนส์ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง