BBL มงลง! คว้า 2 รางวัล ‘ชาติศิริ’ ขึ้นแท่นนักการเงินแห่งปี

BBL มงลง! คว้า 2 รางวัล ‘ชาติศิริ’ ขึ้นแท่นนักการเงินแห่งปี

ธนาคารกรุงเทพ รับมอบ 2 รางวัลสูงสุด Money & Banking Awards 2020 จากวารสารการเงินธนาคาร ในฐานะ ‘ธนาคารแห่งปี 2563 ขณะที่ ‘ชาติศิริ โสภณพนิ’คว้านักการเงินแห่งปี 2562 นับเป็นครั้งที่ 2 ของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้รับพร้อมกันทั้ง 2 รางวัลในปีเดียวกัน

160041709139      นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ในปีนี้ รางวัล Money & Banking Awards โดยวารสารการเงินธนาคาร ได้ประกาศมอบ 2 รางวัลสูงสุด ให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้แก่ รางวัล ‘ธนาคารแห่งปี 2563 หรือ Bank of the Year 2020’

     และ รางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี 2562 หรือ FINANCIER OF THE YEAR 2019” ที่มอบให้กับ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ นับเป็นครั้งที่ 2 ของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้รับพร้อมกันทั้ง 2 รางวัลในปีเดียวกัน โดยครั้งแรกในปี 2544 หรือ 2001

    รางวัล ‘ธนาคารแห่งปี 2563 หรือ Bank of the Year 2020’ ที่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้รับการประกาศยกย่องให้ครองตำแหน่งดังกล่าวในปี 2563 นี้ นับได้ว่าเป็นครั้งที่ 14 ที่ธนาคารกรุงเทพสามารถคว้าตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่มีการประกาศรางวัลเมื่อปีพ.ศ.2528

    สำหรับในปี 2562 ธนาคารกรุงเทพสามารถสร้างกำไรสุทธิได้สูงเป็นอันดับ 3 ของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 35,816.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน มีกำไรต่อหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 18.76 บาท และมีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) 225.36 บาท สูงเป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกัน

      นอกจากนี้ยังได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 8.14% เพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นตามหลักความระมัดระวัง และรักษาระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนเงินกองทุน (BIS) ขั้นที่ 1 สูงเป็นอันดับ 3 ถึง 17.01% โดยธนาคารยังคงยึดมั่นแนวทางที่มุ่งสนับสนุนลูกค้าให้เข้มแข็ง พร้อมรับมือการแข่งขันและความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น

    ในขณะเดียวกัน ธนาคารให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร และสร้างประโยชน์ต่อยอดจากเครือข่ายพันธมิตร เพื่อความพร้อมทุกด้านในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยก้าวสำคัญในปี 2563 คือการเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตา

   ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดของทรัพย์สินรวมอยู่ในลำดับที่ 12 ของประเทศอินโดนีเซีย มีสาขากว่า 300 แห่ง ใน 62 เมืองทั่วประเทศอินโดนีเซีย และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    รางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี 2562 หรือ FINANCIER OF THE YEAR 2019” ที่คณะกรรมการตัดสินรางวัลมีมติมอบให้กับ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

.   ซึ่งเป็นการครองรางวัลนักการเงินแห่งปีครั้งที่ 2 หลังจากที่คว้าตำแหน่งนักการเงินแห่งปีในครั้งแรกเมื่อปี 2544 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน ในการเป็นนักการเงินมืออาชีพที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตยั่งยืนให้กับองค์กร รับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

     โดยคณะกรรมการตัดสินรางวัลมีความเห็นร่วมกันว่า ในสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทั้งโลก ธุรกิจธนาคารที่ต้องเผชิญหน้ากับ “Digital Disruption” ธนาคารกรุงเทพ

    ภายใต้การนำของ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีความโดดเด่นและสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในการรับมือกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ได้เห็นถึง “โอกาส” ของการที่จะ “อยู่” เพื่อทำธุรกิจและให้บริการกับคนรุ่นใหม่ ขณะที่ยังสามารถทำธุรกิจและให้บริการกับฐานลูกค้าเดิมได้

   ทั้งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่และกลุ่มลูกค้าบุคคล ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านเทคโนโลยี พัฒนานวัตกรรมทางด้านการเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความเติบโตให้กับองค์กรได้อย่างมั่นคง

   “นับเป็นความยินดี และความภาคภูมิใจของคณะกรรมการธนาคาร ผู้บริหาร และพนักงาน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรางวัล Money & Banking Awards จากการประกาศยกย่องของวารสารการเงินธนาคาร วารสารด้านการเงินการลงทุนชั้นนำที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับการจัดอันดับให้เป็นวารสารเศรษฐกิจที่มีผู้อ่านมากที่สุดในประเทศไทย โดยธนาคารยังคงมุ่งมั่นนำความรู้และความเชี่ยวชาญ และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ในฐานะของเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชนและสังคม สนับสนุนให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจมีความมั่นคงทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือลูกค้าและชุมชนให้เติบโตและก้าวผ่านสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ในการมุ่งหมายที่จะเป็นธนาคารที่ให้บริการด้านการเงินที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีความพร้อมด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีและระบบงานที่ทันสมัย คงไว้ซึ่งความเป็นสากล ตลอดจนการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย” นายทวีลาภ กล่าว