เลือกเก็งกำไรรายตัวหลังตลาดรวมยังไร้ปัจจัยบวกและลบที่ชัดเจน

เลือกเก็งกำไรรายตัวหลังตลาดรวมยังไร้ปัจจัยบวกและลบที่ชัดเจน

หุ้นยุโรปสหรัฐฯ มีแรงทำกำไร น้ำมันปรับขึ้น

หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ มีแรงทำกำไรหลังการประชุมเฟด ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะสั้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากการประชุมกลุ่มโอเปคและพันธมิตร แม้ไม่มีการลดกำลังการผลิตเพิ่ม (ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด) แต่ยังเน้นการกำกับให้ประเทศสมาชิกที่ผลิตเกินในช่วงที่ผ่านมา ทำการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อชดเชย ซึ่งเรามองเป็นเพียงปัจจัยบวกระยะสั้น ขณะที่ในระยะกลางยังคงกังวลภาพขาลงของน้ำมันหลัง British Petroleum (BP) มองการบริโภคน้ำมันของโลกอาจสูงที่สุดไปแล้วในปี 2562 เนื่องจากผลของการระบาดโควิด

การชุมนุมทางการเมืองกดดันดัชนี แต่หุ้นรายตัวยังทีโอกาสเคลื่อนไหวได้ การชุมนุมใหญ่ทางการเมือง 19 ก.ย.เป็นปัจจัยกดดันตบาด เนื่องจากความกังวลความเสี่ยงไม่พึงประสงค์ที่อาจลุกลาม ไม่ว่าจะเป็นเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ หรือการรัฐประหาร เพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งจะกดดันต่อกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และดัชนีให้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด อย่างไรก็ตามเรายังมองเห็นโอกาสที่หุ้นรายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่คาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีขึ้น หรือมีกำไรเติบโตโดดเด่น ยังสามารถทยอยเลือกเก็งกำไร

ช่วงท้ายตลาด อาจผันผวนจากผลของการปรับหุ้น การปรับหุ้นและน้ำหนักการลงทุนตามดัชนี FTSE จะมีผลในช่วงเย็นวันนี้ ส่งผลให้ปริมาณการซ้อขายในช่วงท้ายตลาดอาจมากกว่าปกติ รวมถึง SET Index อาจเคลื่อนไหวผันผวน โดยเฉพาะหุ้นที่เข้าในกลุ่ม FTSE Large Cap อาทิ CRC, BGRIM, BBL (NVDR) ขณะที่หุ้นที่ถูกปรับออกได้แก่ TOP

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand อาทิ CRC, BGRIM 2) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง โดยเฉพาะ 1,255-1,269 หรือต่ำกว่า การปรับลงแรง (ถ้าเกิดขึ้น) จะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AMA*, ZIGA*, IHL*

แนวรับ 1,274 จุด / แนวต้าน : 1,294-1,300 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

BOE ส่งสัญญาณใช้ดอกเบี้ยติดลบหากจำเป็น แบงก์ชาติอังกฤษ หรือ BOE มีมติ 9-0 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.10% และคงวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรตามนโยบาย QE ที่ 7.45 แสนล้านปอนด์ พร้อมส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบหากมีความจำเป็น

BOJ พร้อมผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่น หรือ BOJ เผยว่าไม่ลังเลที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมระบุยังไม่มีความจำเป็นในการปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อซึ่งกำหนดไว้ที่ 2%

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ ขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 – ส.อ.ท.รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค.63 อยู่ที่ 84.0 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 82.5 ในเดือน ก.ค.63 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ตามความคืบหน้าของการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทำได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าฟื้นตัวทุกภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TACC-CI) ซึ่งสำรวจความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ ในเดือน ส.ค.63 อยู่ที่ 32.6 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดือน ก.ค.63 ที่ระดับ 31.8

 

ประเด็นติดตาม: 19 ก.ย. – ชุมนุมทางการเมืองที่ม.ธ., 23 ก.ย. – ประชุม กนง. / EU manufacturing PMI เดือน ก.ย. / US crude oil inventories, 24 ก.ย. – US initial jobless claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)