บอร์ดสั่งระงับ-อายัดมัดจำ 2 พันล้านส่ง 'ดีเอสไอ-ปปง.' แกะรอย

บอร์ดสั่งระงับ-อายัดมัดจำ 2 พันล้านส่ง 'ดีเอสไอ-ปปง.' แกะรอย

บอร์ด อคส.ประชุมด่วนถกปมสัญญาซื้อถุงมือยาง 112,500 ล้านบาท สั่งยกเลิกสัญญาทั้งหมด ส่ง “ดีเอสไอ-ปปง.” อายัดเงินมัดจำ พร้อมสอบเส้นทางเงิน เหตุสัญญาไม่ผ่านบอร์ด “รุ่งโรจน์” ยันไม่ทุจริต หวังล้างขาดทุน อคส.กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 31/2563 ให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยานวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริการกลาง องค์การคลังสินค้า (อคส.) มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.2563

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้ลงนามสัญญาซื้อถุงมือยางไนไตร กับ บริษัทการ์เดียนโกลฟ์ จำกัด จำนวน 500 ล้านกล่อง (กล่องละ 100 ชิ้น) ราคากล่องละ 225 บาท รวมเป็นราคา 112,500 ล้านบาท โดยสัญญาระบุให้ อคส.ต้องชำระเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทการ์เดียนโกลฟ์ จำกัด ภายใน 3 วันหลังจากลงนามสัญญา และบริษัทการ์เดียนโกลฟ์ จำกัด ต้องนำหลักประกันเป็นหนังสือค้ำประกันสัญญา 200 ล้านบาท ให้กับ อคส.ภายใน 7 วัน

การลงนามของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ อคส.มีขึ้นก่อนที่นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 15 ก.ย.2563

นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ อคส.ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ อคส.เร่งด่วนวานนี้ (17 ก.ย.) เพื่อพิจารณาการทำสัญญาดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีความจำเป็นเร่งด่วนของการลงนามสัญญาและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อคส.และพนักงานลูกจ้างของ อคส.ได้มาติดตามการแก้ปัญหานี้ของคณะกรรมการและฝ่ายบริหาร อคส.

  • บอร์ดสั่งยกเลิกสัญญา

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ อคส.ครั้งนี้ มีมติให้ระงับการจัดซื้อถุงมือยาง พร้อมให้ยกเลิกสัญญา เพราะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ เนื่องจากรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ไม่มีอำนาจอนุมัติงงบประมาณเกินกว่า 20 ล้านบาทด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ตามข้อบังคับของ อคส.กำหนดให้ผู้อำนวยการ อคส.ลงนามได้ในวงเงินครั้งละไม่เกิน 20 ล้านบาท หากเกินกว่านั้นแต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ต้องเสนอให้ประธานกรรมการ อคส.พิจารณา และหากเกินกว่า 50 ล้านบาท ต้องเสนอให้คณะกรรมการ อคส.พิจารณา แต่ครั้งนี้ ต้องจัดหาเงินมากถึง 2,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้เสนอให้คณะกรรมการ อคส.พิจารณาเลย

นอกจากนี้ คณะกรรมการ อคส.มอบอำนาจผู้อำนวยการ อคส.แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ฐานฉ้อโกง รวมทั้งให้อายัดเงินในบัญชีที่ อคส.ได้โอนให้กับบริษัทผู้ผลิตถุงมือยาง ซึ่งในสัญญากำหนดโอนผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีนครปฐม ชื่อบัญชีบริษัทการ์เดียนโกลฟ์ จำกัด เลขที่บัญชี 074-1-44301-5 โดยขอให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย

รวมทั้ง คณะกรรมการ อคส.เห็นว่าการดำเนินการของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นการกระทำการลุแก่อำนาจโดยพลการเพราะไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. และไม่มีการรายงานให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับทราบด้วย 

นอกจากนี้ คณะกรรมการ อคส.ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการ อคส.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งได้แต่งตั้งแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย.63 โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน

  • อ้างหารายได้ล้างขาดทุนสะสม

พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ได้รับทราบคำสั่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปรายงานตัว กำลังรอหนังสือส่งมาถึงตนอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย คือ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ.2498 มาตรา 26 วรรคแรก ไม่ได้มีการทุจริตแต่อย่างใด และเป็นความตั้งใจที่จะล้างขาดทุนสะสมของ อคส.ในช่วง 5 ปีติดต่อกัน ที่มีกว่า 11,000 ล้านบาทให้หมดไป

สำหรับการจัดซื้อถุงมือยางไนไตรดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากมีผู้ส่งออกมาสอบถาม อคส.ว่าสามารถจัดหาถุงมือยางให้ได้หรือไม่ เพราะต้องการนำไปส่งออกไปสหรัฐและยุโรปในจำนวนมากถึง 500 ล้านกล่อง ราคากล่องละ 230 บาท 

ทั้งนี้ เห็นว่าเป็นโอกาสที่ อคส.จะซื้อขายถุงมือยางและทำกำไรได้ จึงติดต่อผู้ผลิตไปหลายราย และในที่สุดได้สั่งซื้อจากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด โดยบริษัทมีหนังสือเสนอราคาลงวันที่ 27 ส.ค.2563 มาที่ อคส.เสนอราคาจำหน่ายที่กล่องละ 225 บาท รวมมูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยให้ อคส.ชำระเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาส่งมอบภายใน 2 ปี

“ก่อนดำเนินการได้ประชุมคณะทำงานด้านการลงทุนของ อคส.และเห็นตรงกันว่าจะซื้อขายถุงมือยาง เพราะเป็นโอกาสที่จะทำกำไรล้างขาดทุนสะสมขององค์กรได้ เพราะถ้า อคส.ไม่ทำอะไรเลย ก็อาจจะต้องยุบองค์การ หรือเข้าสู่การฟื้นฟูเหมือนรัฐวิสาหกิจอื่น ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น พนักงานจะเดือดร้อนอีกมากและอาจถูกลอยแพ” พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าว

ดังนั้น จึงได้ตกลงซื้อขายกับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ เพราะให้วางเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท ซึ่ง อคส.พอจะมีกระแสเงินสด ขณะที่ข้อเสนอของหลายบริษัทกำหนด อคส.วางเงิน 50% ของมูลค่าสินค้า ซึ่ง อคส.ไม่มีเงินมากขนาดนั้น 

  • อ้างสัญญาผ่านอัยการแล้ว

ส่วนสาเหตุที่ไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส.เพราะเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน และถ้าเสนอให้พิจารณาตามประชุมจะเป็นการล่าช้า จึงได้เวียนขอมติเป็นการเร่งด่วนก่อนการจัดซื้อ และยังได้จัดทำร่างสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง โดยยกร่างจากสัญญาซื้อข้าวสารที่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว พร้อมกันนั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับสินค้า การจ่ายสินค้าให้กับผู้ซื้อ และจัดทำรายงานการรับจ่ายสินค้า เพื่อให้มีการบันทึกบัญชีซื้อขายด้วย

“ยืนยันว่า การดำเนินการทั้งหมด ทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย ไม่ได้กระทำโดยพลการ เพราะได้เวียนขอมติจากบอร์ดแล้ว อีกทั้งไม่มีเป็นการทุจริตแน่นอน โดยพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด และต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ ต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง” พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าว

นอกจากนี้ มีการประเมินว่า อคส.จะได้กำไรจากการซื้อถุงมือยางมาจำหน่าย 3,500 ล้านบาท ในขณะที่สถานะการเงิน อสค.ในปัจจุบันมีกระแสเงินสด 3,400 ล้านบาท และมีรายได้จากดอกเบี้ยปีละ 5 ล้านบาท และหลังจ่ายเงินล่วงหน้าซื้อถุงมือยางจะมีเงินเหลือ 1,400 ล้านบาท

“ผมพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหาเพราะเราทำด้วยความตั้งใจดี และมีข้อกฎหมายรองรับชัดเจน ส่วนการไปทำงานที่สำนักนายกฯไม่หนักใจเพราะโดยส่วนตัวยังได้รับประโยชน์เหมือนเดิมและเป็นข้อดีที่จะได้ให้ทุกอย่างโปร่งใส” พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าว

  • ผอ.ใหม่ไล่ตรวจสอบข้อมูล

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต รับตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ เมื่อเดือน ก.ย.2563 และมีการรายงานผลดำเนินงานต่างๆ ให้ทราบ 

รวมถึงมีการรายงานการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมีการตั้งคำถามว่าเหตุใดไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. ซึ่งทำให้นายเกรียงศักดิ์ ได้รายงานเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จนนำมาซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเสนอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี จนกว่าการสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ

สำหรับบริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 22 มิ.ย.2563 มีทุนจดทะเบียน 2,500 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 131/45 หมู่ 11 ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยมีกรรมการ 1 คน คือ ธณรัสย์ หัดศรี ส่วนจำนวนหุ้นมีทั้งหมด 25 ล้านหุ้น มีผู้ถือหุ้น 3 ราย คือ 1.ธณรัสย์ หัดศรี 24.98 ล้านหุ้น 2.อรัญรัชญ์ หัดศรี 7,500 หุ้น 3.ณัฐญา หัดศรี 7,500 หุ้น

160040032826