กระชับพอร์ท

กระชับพอร์ท

Fed ยังกังวลความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสหรัฐ

ตลาดหุ้นวานนี้

SET เพิ่มขึ้น 7.30 จุด (+0.57%) ปิดที่ระดับ 1,293 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่มที่ได้ประโยชน์มาตรการลองสเตย์ ท่องเที่ยวและโรงพยาบาล และกลุ่มที่มีปัจจัยฉพาะตัว เช่น อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

มุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,285 - 1,300 จุด แม้จะได้แรงหนุนจาก Fed ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยระดับต่ำจนถึงปี 2566 รวมถึงราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามท่าที Fed ยังกังวลความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้การเมืองภายในที่กลุ่มนักศึกษาจะชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่คาดว่างบ 3Q20 เติบโต TU ASIAN COM7 CHG PTG PLANB 
  • PTTEP TOP PTTGC ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTEP (ปิด 87.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 96) ราคาหุ้นลงมาลึก น้ำมันดิบเริ่มฟื้นเป็น Sentiment บวกกับ PTTEP โดยตรง (Oil link) แนวโน้ม 3Q20 มีโอกาสเพิ่มขึ้น qoq ไม่มีแรงกดดันจาก Stock gain /Stock loss เหมือนโรงกลั่น
  • BDMS (ปิด 20.8 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 23.5) ธุรกิจเข้าสู่ high season ได้ผลบวกภาครัฐคลายเกณฑ์ Medical Tourists โดยเพิ่มจำนวนประเทศที่สามารถเข้ามารักษาพยาบาลตามโปรแกรม AHQ จากเดิม 3 ประเทศ เป็น 138 ประเทศ

บทวิเคราะห์วันนี้

RS (ปิด 19.3 ถือ/เป้า 17), Banking sector

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) Fed ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีก 3 ปี แต่เศรษฐกิจสหรัฐยังเสี่ยงกับความไม่แน่นอน: Fed คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ตามคาดและจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีก 3 ปีถึงปี 2023 พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ GPD ปีนี้ขึ้นจาก -6.5% เป็น -3.7% ส่วนระยะกลางยาวเตือนเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความไม่แน่นอน
  • (+) น้ำมันดิบ WTI พุ่งปิดเหนือระดับ 40$/bbl จากข่าวพายุ และ สต๊อกน้ำมันลดลงมากกว่าคาด: ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent พุ่งแรงกว่า 4% หรือเพิ่มขึ้น 1.88$ ปิดที่ระดับ 40.16 $/bbl มาจาก 2)ปัจจัยหนุน คือ 1)EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และ 2)พายุเฮอร์ริเคนแซลลีทวีความรุนแรงขึ้นสู่ระดับ 3 ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกลดลง 27.5%
  • (+) กลุ่มค้าปลีก - ศบศ.ออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อวงเงินรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท: ผ่าน 2 มาตรการ คือ 1)เพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาทต่อคนต่อเดือน 14 ล้านคนเป็นเวลา 3 เดือน และ 2)โครงการคนละครึ่งช่วยสนับสนุนเงินใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาทต่อคนประมาณ 10 ล้านคน เริ่มลงทะเบียน 16 ต.ค.ปี 63