คาดมีแรงทำกำไร หลังประชุมเฟดไม่สร้างความตื่นเต้นใหม่

คาดมีแรงทำกำไร หลังประชุมเฟดไม่สร้างความตื่นเต้นใหม่

เฟดคงดอกเบี้ยยาวและมุมมองต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

เฟดคงดอกเบี้ย และส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้นต่ำอีก 3 ปี ถึงปี 2566 ผ่านมุมมองของกรรมการเฟด (Dot plot) ขณะที่มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ ประเมินเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2563 จะหดตัว 3.7% (จากเดิม -6.5%) ขณะที่ปี 2564 ขยายตัว 4% (จาก +5%) และปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานเหลือ 7.6% ทั้งนี้มุมมองเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แม้จะเป็นบวกต่อภาพระยะกลาง แต่ในระยะสั้นอาจทำให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเนื่องจากเฟดไม่มีความจำเร่งด่วนเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งทำให้เราอาจเห็นแรงทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นได้

จากนี้การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ เป็นปัจจัยเสี่ยง ขณะที่ที่หุ้นยังเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีเหนือสินทรัพย์อื่น ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ จะทำให้ตลาดตอบรับปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเชิงนโยบายของผู้สมัครทั้ง 2 คน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อจีน (ทรัมป์) ซึ่งกระทบห่วงโซ่อุปทานของเอเชีย รวมทั้งนโยบายขึ้นภาษีนิติบุคคล (ไบเดน) ซึ่งอาจทำให้กำไรบจ.ในสหรัฐฯ ปรับลดลง ทำให้ก.ย.-ต.ค.จะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นโลกอาจเคลื่อนไหวผันผวน อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนแท้จริง (real yield) ของพันธบัตรสหรัฐฯ (หมายถึง อัตราผลตอบแทนลบด้วยเงินเฟ้อ) ติดลบอยู่ประมาณ 1% ซึ่งในสถานการณ์ที่สินทรัพย์ทางการเงินต่างๆมีผลตอบแทนจำกัด หรือไม่คุ้มกับความเสี่ยง ทำให้หุ้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะหากมีความผันผวนจากแรงทำกำไรในช่วงเวลา 1-2 เดือนนี้

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand อาทิ CRC 2) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP 3) หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย CPALL, ZEN, M 4) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง โดยเฉพาะ 1,255-1,269 หรือต่ำกว่า // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร ADVANC, CRC*, CPF*

แนวรับ 1,274 จุด / แนวต้าน : 1,294-1,300 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2563 – OECD คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2563 หดตัว 4.5% ดีขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดือน มิ.ย. ที่คาดหดตัว 6% และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปีหน้า

NBS คาดเศรษฐกิจจีนโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/63 –ปัจจัยกระตุ้นการฟื้นตัวยังคงปรากฎให้เห็นในเดือนนี้

ศบศ.อัดงบ 5.1 หมื่นลบ.เพิ่มเงินบัตรคนจน แจก 3 พันบาทกระตุ้นกำลังซื้อในปท. - สศค.เห็นชอบมาตรการ 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินจำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค.ถึงธ.ค. 2563 มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท และ 2) โครงการคนละครึ่ง เปิดลงทะเบียนผ่านเวปไซต์ในวันที่ 16 ต.ค. 63 มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท

STGT – มั่นใจดีมานด์ถุงมือยางขยายตัวต่อเน่องแม้มีความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ชี้ตุนออเดอร์ส่งมอบยาวจนถึงต้นปี 2565 ประเมินธุรกิจถุงมือยางโต 15-20% ต่อปี ปรับแผนลงทุนเร่งเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเร็วกว่าเดิมเป็น 7 หมื่นล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2569 จากเดิมที่ปี 2571

SCGP - มีกำหนดให้ข้อมูลกับนักลงทุนรายย่อย 23 ก.ย.63 เราคาดจะเริ่มทำการซื้อขายได้ทันในช่วง ต.ค. หลัง

PTTORเริ่มนับ 1 การยื่น filing และเข้าสู่กระบวนการทางการตลาดในการนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน โดยคาดจะเข้าจดทะเบียนได้ราว พ.ย.-ธ.ค. และเป็นปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นแม่อย่าง PTT

เที่ยวบินเพิ่ม – จำนวนเที่ยวบิน ส.ค.รวม 30360 เที่ยว เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

ประเด็นติดตาม: 17 ก.ย. – BOJ meeting, BOE meeting / 19 ก.ย. – ชุมนุมทางการเมืองที่ม.ธ.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)