ANTEBELLUM หนังสยองขวัญ ขับเคลื่อนสังคม

สัปดาห์นี้มีหนังเข้าใหม่เรื่อง 'ANTEBELLUM หลอน ย้อน โลก' จากผู้สร้างภาพยนตร์ที่เดาทางไม่ได้ เคยปั่นคนดูให้ต้องหัวหมุน และอ้าปากค้างกันมาแล้วจาก Get Out (2017) และ Us (2019)

‘ANTEBELLUM หลอน ย้อน โลก’ ยังเพิ่มความน่าดูเข้าไปอีกขั้นเมื่อได้นักแสดงนำหญิงที่มีความสามารถรอบด้านอย่าง จาแนลล์ โมเน่ (จาก Moonlight และ Hidden Figures) มานำแสดง แท็กทีมด้วยด้วยนักแสดงสาวผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Precious อย่าง กาบูรีย์ ซิดิเบ พ่วงด้วย เจน่า มาโลน จาก The Hunger Games และ เคลย์ซี คลีมอนส์ จาก Dope

‘ANTEBELLUM หลอน ย้อน โลก’ มีความเหมือนกับ Get Out และ Us ตรงที่ผู้สร้างยังคงหยิบยกเรื่องราวของคนดำมานำเสนอเหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้ย้อนกลับไปไกลถึงในยุคที่คนดำยังเป็นทาสเก็บฝ้ายอยู่ในไร่กันเลยทีเดียว

โดยเนื้อเรื่องของ Antebellum พูดถึง เวโรนิก้า เฮนลีย์ (รับบทโดย จาแนลล์ โมเน่) นักเขียนสาวระดับเบสต์เซลเลอร์ และนักเคลื่อนไหวสิทธิคนสีผิวที่ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงานและครอบครัว แต่อยู่ดี ๆ โชคชะตาก็เล่นตลก ให้เธอย้อนเวลากลับไปติดอยู่ในร่างของทาสผิวดำชื่อ ‘อีเดน’ ในไร่ฝ้ายสมัยยังไม่เลิกทาส เธอจึงต้องกลายมาเป็น ‘ความหวัง’ ของชุมชนทาสที่เสมือนตกอยู่ในนรก

เกิดอะไรขึ้นกับเวโรนิกา? ทำไมต้องเป็นเธอ?

หนทางเดียวที่จะไขคำตอบปริศนาครั้งนี้ได้ เวโรนิก้าต้องทวงชีวิตของเธอคืนมา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

นอกเหนือจากพล็อตเรื่องสุดแหวกแนว และนักแสดงชั้นยอดแล้ว Antebellum ยังเป็น ‘หนังภาพสวย’ ผู้ชมจะรู้สึกราวกับกำลังได้ชมภาพศิลปะที่มีชีวิต ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพราะผู้กำกับภาพยนตร์ เจอร์ราด บุช และ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ต้องการเล่าเรื่องราวอันน่าขนลุกผ่านภาพที่งดงาม

“เราวาดเนื้อเรื่องลงไปบนฉากหลังที่งดงาม เพราะเราอยากให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับความงามของตอนใต้อเมริกา แม้ว่าตัวละครจะเผชิญกับเรื่องเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม” เจอร์ราด บุช อธิบาย

ทีมงานได้ยกกองถ่ายทำฉากไร่ฝ้ายนรกไปถึงนิคมเกษตรเอฟเวอร์กรีน สถานที่จริงในอดีต ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำมิสซิซิปปี้ ห่างจากเมืองนิวออร์ลีนส์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 40 ไมล์ โดยที่นี่ยังคงเป็นที่เดียวในอเมริกาที่ยังคงรักษาเรือนทาสดั้งเดิมเอาไว้

“เราต้องการถ่ายทำในสถานที่จริงเพื่อให้เกียรติบรรพบุรุษที่สละชีวิต ทันที่ทีมาถึงเอฟเวอร์กรีน เรารู้เลยว่าต้องถ่ายกันที่นี่ วิญญาณของทาสที่เคยถูกมัดกับต้นไม้ยังคงวนเวียน คุณรู้สึกได้เลย” คริสโตเฟอร์ เรนซ์ กล่าว

ไม่ใช่แค่ความสวยงามของภาพ ฉาก และองค์ประกอบเท่านั้น เครื่องแต่งกายของนักแสดงในเรื่องยังได้ผู้ชนะสามรางวัลออสการ์ อย่าง แมรี่ โซเฟรส จาก LA LA LAND และ Interstellar มาเป็นผู้คัดเลือกเครื่องแต่งกายที่ผสมความงามและความน่ากลัวได้ลงตัว

โดยแมรี่เผยว่า จาแนลล์ โมเน่ มีส่วนสำคัญในการเลือกเสื้อผ้าของเวโรนิก้าและเอเดนไม่น้อย

“จาแนลล์เสนอไอเดียให้ใช้เสื้อผ้าของดีไซเนอร์อัฟริกันอเมริกัน หรือสืบเชื้อสายจากชาวอัฟริกัน เธอพูดจริงทำจริงเหมือนเวโรนิก้าเลย”

‘จาแนลล์ โมเน่’ อาจไม่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคอหนังบ้านเรากันซักเท่าไร แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นนักแสดงหญิงที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของปี 2020 โดยผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมาถือเป็นสปอร์ตไลท์ส่องทางการแสดงเธอมาโดยตลอด

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ดีกรีออสการ์ที่หยิบเอาประเด็น LGBT ในกลุ่มคนดำมาเล่าได้ดีเยี่ยม อย่าง Moonlight หรือภาพยนตร์น้ำดีที่ถ่ายทอดชีวิตจริงของคนดำในองค์กรระดับโลก NASA อย่าง Hidden Figure ที่ส่งผลให้เธอเข้าชิงรางวัลมาแล้วหลายเวที

จาแนลล์ใน Hidden Fugure

นอกจากผลงานด้านการแสดงจะโดดเด่นแล้ว จาแนลล์ยังมีความสามารถด้านการร้องเพลงระดับได้เข้าชิงรางวัล ‘อัลบั้มแห่งปี’ แกรมมีอวอร์ด เมื่อปี 2561 จากผลงานเพลงชุด Dirty Computer อีกด้วย

ความสามารถที่รอบด้านทำให้ จาแนลล์ โมเน่ ได้รับเลือกจากนิตยสารระดับโลกอย่าง VARIETY ให้เป็นผู้หญิงที่ได้รับตำแหน่ง Power of Women ซึ่งคัดเลือกโดยพิจารณาจากทั้งผลงานการแสดงรวมถึงบทบาทในชีวิตจริงของเธอที่ได้ร่วมเรียกร้องสิทธิให้กับเหล่า LGBT และผู้หญิงผิวดำในอเมริกา

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Antebellum นี้ จาแนลล์ฝากถึงผู้ชมเอาไว้ว่า

“ยังไม่ต้องรู้ว่าตัวหนังมันจะออกมาน่ากลัวขนาดไหน แค่คอนเซปต์ของหนัง คือการทำให้คนผิวดำไม่มีปากเสียง ไม่มีสิทธิ์พูด ไม่มีสิทธิ์ในการเรียกร้องอะไร นับว่าเป็นความสยองขวัญอย่างแท้จริงแล้ว”

• หนังสยองขวัญ แฝงนัยขับเคลื่อนสังคม

Antebellum ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่มีแต่ความระทึกขวัญเพียงอย่างเดียว แต่ตัวหนังมีประเด็นทางสังคมอยู่อย่างแข็งแรง เพราะนอกจากนักแสดงนำอย่าง จาแนลล์ โมเน่ ที่เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมแล้ว ผู้กำกับภาพยนตร์ 2 คน ทั้ง เจอร์ราด บุช และ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ต่างก็เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมเช่นเดียวกัน

“ANTEBELLUM ถูกลิขิตมาเพื่อเวลาแบบนี้” ทั้งสองใช้ช่องทางการแสดง บทสนทนาในเรื่อง วิพากย์ประเด็นต่างๆ ในสังคม ถ่ายทอดรวบรวมออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้

“เวโรนิก้าทำอะไรเพื่อสังคมเยอะมาก เธอไม่ได้แค่ทำเพื่อตัวเองแต่เพื่อยกระดับสังคมของเธอ เพื่อให้คนดำมีบทบาทมากกว่าเดิมและไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไป เป็นเหมือนการปฎิวัติชีวิตของพวกเรา” จาแนลล์กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เธอสนใจหนังเรื่องนี้

“ฉันหวังว่าหลังจากที่ทุกคนได้ชม Antebellum แล้ว หนังจะทำให้คุณลุกขึ้นไปทำอะไรบางอย่างโดยทันที”