เปิดทำเนียบ 10 ‘นักเตะ’ รายได้สูงสุด 2020

เปิดทำเนียบ 10 ‘นักเตะ’ รายได้สูงสุด 2020

เปิดทำเนียบ 10 อันดับนักเตะรายได้สูงสุดในโลกประจำปีนี้ นำโดย “ลิโอเนล เมสซี” “คริสเตียโน โรนัลโด” และ “เนย์มาร์” 3 แข้งแถวหน้าแห่งวงการลูกหนัง ไปดูกันว่านักฟุตบอลทั้ง 10 คนมีแหล่งรายได้จากไหนบ้างและรับทรัพย์ไปมากน้อยเท่าไหร่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิตยสาร “ฟอร์บส” (Forbes) จัดอันดับนักฟุตบอลรายได้สูงสุดประจำปี 2020 โดยยกให้ “ลิโอเนล เมสซี” แข้งดังชาวอาร์เจนตินาและกัปตันทีมบาร์เซโลนาที่เพิ่งมีประเด็นดราม่าขอย้ายทีมแต่สุดท้ายจำต้องอยู่ต่ออีกปี ครองแชมป์ด้วยรายได้รวม 126 ล้านดอลลาร์ เฉือนอันดับ 2 อย่าง “คริสเตียโน โรนัลโด” สตาร์ดังชาวโปรตุเกสจากทีมยูเวนตุสที่โกยรายได้รวม 117 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นักเตะที่น่าจับตามองในปีนี้คือ “คิลิยัน เอ็มบัปเป” กองหน้าชาวฝรั่งเศสวัย 21 ปีจากทีมปารีสแซงต์แชร์กแมง (เปแอสเช) ที่ติดอันดับ 4 ในลิสต์นี้ด้วยรายได้รวม 42 ล้านดอลลาร์

เอ็มบัปเปโชว์ฟอร์มแรงทั้งกับเปแอสเชและทีมชาติฝรั่งเศส โดยยิงได้รวม 103 ประตูในการแข่งขันทุกรายการตั้งแต่เป็นนักเตะอาชีพเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในศึกฟุตบอลโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี พร้อมพาทีมตราไก่คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จเมื่อปี 2018

ผลงานค้าแข้งของเอ็มบัปเปถือว่าก้าวกระโดดกว่าเมสซีและโรนัลโดเมื่อเทียบในวัยเดียวกัน โดยครองตำแหน่งดาวซัลโวลีกเอิงของฝรั่งเศส 2 สมัย ด้วยจำนวนประตูรวมมากกว่าเมสซีตอนอายุ 21 ปี ถึง 12 ประตู และมากกว่าโรนัลโดสมัยอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 76 ประตู

ส่วนนักเตะที่มีรายได้สูงสุดอันดับ 3 คือ “เนย์มาร์” แข้งจอมเลื้อยชาวบราซิลและเพื่อนร่วมสโมสรของเอ็มบัปเป ซึ่งโกยรายได้รวม 96 ล้านดอลลาร์ แต่แนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงใน 2-3 ปีข้างหน้า เพราะเอ็มบัปเปน่าจะได้ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาฉบับใหม่กับเปแอสเชในปี 2022 ที่สัญญาปัจจุบันของเขาจะหมดลง

เมื่อดูภาพรวม 10 นักเตะรายได้สูงสุดในโลกประจำปีนี้ คาดว่าจะโกยรายได้รวมกัน 570 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงค่าเหนื่อย โบนัส และค่าสปอนเซอร์ในฤดูกาลปัจจุบันที่เพิ่งเปิดฉาก และตัวเลขรวมยังถือว่าเพิ่มขึ้น 11% จากฤดูกาล 2019/20 ด้วย ไปเช็คกันว่า แต่ละคนมีรายได้จากแหล่งไหนและมูลค่าเท่าไหร่บ้าง

 

  • 1. ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา)

รายได้รวม : 126 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 92 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 34 ล้านดอลลาร์

บาร์เซโลนาใช้เวลา 105 ปีในการคว้าแชมป์ 64 รายการก่อนเมสซีก้าวขึ้นชุดใหญ่เต็มตัวในปี 2005 และในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา เมสซีพาบาร์ซากวาดถ้วยแชมป์ 34 รายการ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ทำให้ชื่อของเขาขึ้นแท่นหนึ่งใน “เทพลูกหนัง” พร้อมรับรายได้ก่อนหักภาษีรวม 1,000 ล้านดอลลาร์

ส่วนสปอนเซอร์ประจำตัว เมสซีเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ตลอดชีพให้แบรนด์กีฬาดัง Adidas รับทรัพย์ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ในปีนี้ เมสซีสร้างความตกตะลึงให้ทั้งวงการฟุตบอลหลังขออำลาต้นสังกัดแห่งแรกและแห่งเดียวที่เขาใช้ชีวิตค้าแข้งก่อนหมดสัญญา 1 ปี แต่ลงเอยด้วยการจำใจอยู่กับสโมสรจนครบสัญญาและรับค่าเหนื่อย 92 ล้านดอลลาร์ในปีสุดท้าย แต่ต้องไปลุ้นกันต่อในปีหน้าว่า ทีมไหนจะได้แข้งดังคนนี้ไปร่วมทีม

 

  • 2. คริสเตียโน โรนัลโด (ยูเวนตุส)

รายได้รวม : 117 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 70 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 47 ล้านดอลลาร์

โรนัลโดถือเป็นนักกีฬาขวัญใจมหาชนทั่วโลก ด้วยจำนวนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียกว่า 457 ล้านราย แข้งดังชาวโปรตุเกสมักโพสต์รูปโชว์หุ่นเฟิร์มไร้ไขมันและยังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและชุดชั้นในชาย CR7 รวมถึงพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่าง Herbalife และแชมพู Clear

นอกจากนี้ เขายังเป็นพรีเซนเตอร์ตลอดชีพให้แบรนด์กีฬา Nike พร้อมรับทรัพย์รวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์

สำหรับผลงานทีมชาติ โรนัลโดเป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก “อาลี เดอี” อดีตดาวยิงชาวอิหร่านที่ทำประตูให้ทีมชาติเกิน 100 ประตู หลังแข้งฝอยทองยิง 2 ประตูในรายการ UEFA Nations League พาโปรตุเกสชนะสวีเดน 2-0 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

  • 3. เนย์มาร์ จูเนียร์ (เปแอสเช)

รายได้รวม : 96 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 78 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 18 ล้านดอลลาร์

เนย์มาร์ แข้งชาวบราซิลวัย 28 ปี หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการฟุตบอลจากมาดกวนๆ ติดตลก และไลฟ์สไตล์นอกสนาม ได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น 4 เท่าหลังย้ายจากบาร์เซโลนาไปร่วมทัพเปแอสเชในฐานะนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อเดือน ส.ค. 2017

รวมแล้ว เปแอสเชต้องจ่ายเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์เพื่อดึงตัวเนย์มาร์มาร่วมทีม ทั้งค่าตัว 263 ล้านดอลลาร์และค่าเหนื่อยเฉลี่ย 70 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ซัมเมอร์นี้ Nike ได้ยุติสัญญาเป็นสปอนเซอร์กับเนย์มาร์หลังอยู่กันมานานกว่า 10 ปี และเนย์มาร์ก็หันไปเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์คู่แข่งอย่าง Puma

 

  • 4. คิลิยัน เอ็มบัปเป (เปแอสเช)

รายได้รวม : 42 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 28 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 14 ล้านดอลลาร์

เอ็มบัปเป รับรางวัลรองเท้าทองคำของลีกเอิงเป็นสมัยที่ 2 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติสำหรับผู้เล่นที่ถล่มประตูมากที่สุดในลีก

ขณะที่สโมสรเปแอสเชของเขาก็คว้าแชมป์ลีกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังลีกสูงสุดฝรั่งเศสประกาศตัดจบการแข่งขันฤดูกาล 2019/20 และตัดสินอันดับจากคะแนนรวม ณ ตอนนั้น แม้ยังเหลือแมตช์ตกค้างอีกประมาณ 10 นัด เพราะเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19

 

  • 5. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

รายได้รวม : 37 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 24 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 13 ล้านดอลลาร์

ซาลาห์ กองหน้าชาวอียิปต์ขวัญใจเหล่าเดอะค็อป ทุบสถิติยิงทุกรายการเกิน 20 ประตูต่อฤดูกาลในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุดกับลิเวอร์พูล และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่แล้ว

แข้งวัย 28 ปีเซ็นสัญญายาวเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Vodafone บริษัทด้านการสื่อสารรายใหญ่ และยังเป็นทูตคนแรกของเครือข่ายระดับสถาบันศึกษาแบบเร่งด่วนที่เป็นของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งเป็นโปรเจคร่วมกับองค์กรการกุศลของ Vodafone

 

160026163913

ส่วนนักเตะรายได้สูงสุดอันดับ 6-10 แม้รับทรัพย์น้อยกว่าแข้ง 5 อันดับแรก แต่ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้กัน โดยมีดังต่อไปนี้

  • 6. ปอล ป็อกบา (แมนฯ ยูไนเต็ด)

160026224637

รายได้รวม : 34 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 28 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 6 ล้านดอลลาร์

 

  • 7. อองตวน กรีซมันน์ (บาร์เซโลนา)

160026226318

รายได้รวม : 33 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 28 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 5 ล้านดอลลาร์

 

  • 8. แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)

160026229120

รายได้รวม : 29 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 23 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 6 ล้านดอลลาร์

 

  • 9. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี (บาเยิร์น มิวนิค)

160026230778

รายได้รวม : 28 ล้านดอลลาร์

ค่าเหนื่อย 24 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 4 ล้านดอลลาร์

 

  • 10. ดาวิด เด เกอา (แมนฯ ยูไนเต็ด)

160026232352

รายได้รวม : 27 ล้าน

ค่าเหนื่อย 24 ล้านดอลลาร์ + ค่าสปอนเซอร์และอื่นๆ 3 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ การจัดอันดับของฟอร์บส อ้างอิงข้อมูลจากการสอบถามทางสโมสร เอเยนต์ของนักเตะ สปอนเซอร์ และบรรดากูรูวงการฟุตบอลทั้งในสหรัฐและยุโรป

ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ทั้งหมดนี้ถูกแปลงจากสกุลเงินยูโรหรือปอนด์เป็นดอลลาร์ และครอบคลุมค่าเหนื่อย โบนัส และค่าสปอนเซอร์ต่างๆ สำหรับฤดูกาล 2020/21 โดยเป็นตัวเลขก่อนหักภาษี แต่ไม่ครอบคลุมค่าธรรมเนียมในการซื้อขายนักเตะ

---------------------------

อ้างอิง: Forbes, Sports Business Daily, Nike, Investopedia