ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1292 / 1298 จุด แนวรับ 1280 / 1270 จุด ปัจจัยบวก คือ คาดผลประชุมเฟดคืนนี้จะส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และคงดอกเบี้ยต่ำนานจนถึงปี 2023 แนะนำเก็งกำไร MINT ERW SPA ALL SPVI COM7 CPW

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) จีนเผยวัคซีนรักษา COVID-19 พร้อมที่จะให้บริการในเดือน พ.ย. (+Vaccine Play)

       2) ครม.อนุมัติ Travel Bubble กลุ่ม Long Stay คาดเพิ่มรายได้ 1.2 พันล้านบาทต่อเดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2020 (+กลุ่มอิงท่องเที่ยว โรงแรม)

       3) ลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้ ส่งสัญญาณดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023 และเพิ่มมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ (+หุ้นปันผลสูง หุ้นบลูชิพกลุ่ม Cyclical )

       4) สภาฯ เริ่มพิจารณางบประมาณปี 2021 วาระ 2 (ประชุมต่อเนื่องจนถึงวันศุกร์)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

USA-FOMC Meeting, USA ยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. คาด +1% MoM (Vs เดือน ก.ค. +1.2% MoM ), NAHB Housing Market Index เดือน ก.ย. คาด 78 (เดือน ส.ค. 78), OECD-ประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ของ G-20, ไทย-สภาพิจารณางบปี 2021 วาระ 2-3 วันที่ 16-18 ก.ย., Japan-ดุลการค้าเดือน ส.ค. คาด -37.5 พันล้านเยน (Vs เดือน ก.ค. +11.6 พันล้านเยน)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นดีกว่าภูมิภาค โดยปรับขึ้นแรงในภาคบ่ายก่อนมาปิดที่ระดับ 1286.18 จุด +13.84 จุด +1.09% วอลุ่มเบาบาง 4.38 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.91% ธุรกิจการเกษตร +2.97% สื่อและสิ่งพิมพ์ +2.2% ขนส่งและสาธารณูปโภค +2.03% โดยหุ้นบวก >4% MINT JMART CRC SUPER JMT HMPRO JKN STA KCE COL PRM DELTA PTG WORK ICHI CENTEL RBF VGI AAV SPVI ERW SPA ส่วนหุ้นลบ >4% TIPCO TASCO THAI

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJIA +0.01% S&P500 +0.52% Nasdaq +1.21% คาดมีข่าวดีจากผลประชุมเฟดคืนนี้ นำขึ้นโดยหุ้นกลุ่ม Communication Service +1.7% Real Estate +1.39% เทคโนโลยี +1% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก DAX +0.18% CAC40 +0.32% FTSE +1.32% จากรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนที่แข็งแกร่ง

+ น้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดสูงขึ้น Brent +92 เซนต์ ปิดที่ USD40.53/บาร์เรล WTI +USD1.02 ปิดที่ USD38.28/บาร์เรล รับข่าวพายุเฮอริเคน Sally ที่พัดเข้าอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบหายไป 27% ส่วนทองคำขึ้นต่อ +USD2.5 ปิดที่ USD1,966.20/ออนซ์ จากคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

ประเด็นสำคัญ

+ กลุ่มท่องเที่ยว: ครม. อนุมัติ Travel Bubble กลุ่ม Long Stay จำนวน 100-300 คน (อยู่ได้นานถึง 270 วัน) คาดเพิ่มรายได้ 1.2 พันล้านบาทต่อเดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2020 (+กลุ่ม Vaccine Plays MINT CENTEL ERW AAV AOT SPA)

+ Opportunity Day: วันนี้ SISB TPIPP ARROW HPT STGT STA FN

+ FOMC Meeting: Krungthai COMPASS คาดคงดอกเบี้ย Fed Fund Rate ที่ 0-0.25% และจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Average Inflation Targeting ซึ่งจะทำให้เฟดไม่ต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อจะเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว (คาดรายงานเฟดจะส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย 0-0.25% ไปจนถึงปี 2023)

+ Japan: สภาฯ ญี่ปุ่นพิจารณาแต่งตั้งนายซูงะ เป็นนายกฯ คนใหม่ อย่างไรก็ดี ตลาดคาดว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากมีเวลาเหลือในการบริหารอีกเพียง 1 ปี

+ จีน: วัคซีนรักษา COVID-19 ของจีน อาจจะพร้อมในการให้บริการเร็วสุดต้นเดือน พ.ย.

+ Apple: ออก Apple Watch series 6 ด้วยระบบ watch OS 7 และ Ipad รุ่นที่ 8 รวมถึงบริการ Apple One Plan USD29.95/เดือน เพื่อรับบริการ รวมถึง Apple Music, Apple TV+

– ไทย/ฟิลิปปินส์: ADB ปรับลดคาดหมาย 2020E GDP ของฟิลิปปินส์ เป็น -7.3% (Vs คาดเดิมเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ -3.8%) จากการชะลอลงทุนและการบริโภคเอกชนปรับลดลงจากผลกระทบ COVID-19 ขณะที่ไทยปรับลดลงเป็น -8% ในปี 2020E ก่อนฟื้นตัว +4.5% ในปี 2021E

+ งบประมาณ: คาดสภาฯ จะผ่านการพิจารณางบประมาณประจาปี 2021 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ในวันที่ 16-18 ก.ย.

- EU/UK: สภานิติบัญญัติลงมติรับร่างกฎหมาย Internal Market Bill ด้วยคะแนนเสียง 340 ต่อ 236 เสียง เปิดทางให้มีการอภิปรายรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวต่อไปเป็นเวลา 4 วัน

แนะนำ ขึ้นขาย โดยมีจุดซื้อคืนแนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CBG JASIF DIF

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MINT ERW SPA ALL SPVI COM7 CPW

Derivatives: ทยอยปิด Short S50U20 เมื่ออ่อนตัว เพื่อล็อกกำไรออกมาก่อน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)